แสงสว่าง นับเป็นส่วนสำคัญของการเติบโตของทั้งมนุษย์และสัตว์ โดยเฉพาะการใช้ชีวิตภายในบ้าน ซึ่งในสมัยก่อนเราอาจอาศัยแสงจากธรรมชาติ หรือการจุดตะเกียง แต่เมื่อเวลาผ่านไป มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้า มีวิวํฒนาการที่หลากหลานมากขึ้น หลอดไฟ led จึงเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์จำเป็นและสำคัญที่ต้องติดไว้ทุกบ้านอยู่เสมอ แต่หากบ้านไหนยังลังเลใจที่จะเปลี่ยนหลอดไฟแบบเก่ามาใช้แบบ led มาทำความเข้าใจและรู้ถึงข้อดีของหลอดไฟ led ได้ในบทความนี้เลย

หลอดไฟ led คืออะไร?

หลอดไฟ led (Light Emitting Diode) เป็นหลอดไดโอดชนิดเปล่งแสง ซึ่งทำมาจากสารกึ่งตัวนำ (Semiconductor) 2 ชนิดมาวางติดกัน เพื่อทำการปล่อยแสงสว่างออกมา นับว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์อิเลกทอรนิกส์ที่มีหน้าให้แสงสว่างสีขาว โดยปกติแล้วจะมีให้เลือกอยู่ 2 ประเภท คือ 1. สำหรับแสดงสถานะ (indicator-type) และ หลอดไฟ led สำหรับให้แสงสว่าง (illuminator-type) โดยมีคุณสมับิติหลักคือเป็นอุปกรณ์ที่มีความทนทานและให้ความสว่างสูงมาก ทำให้เป็นที่นิยมในบ้านทั่ว ๆ ไป

จุดเด่นหลักของการเลือกใช้หลอดไฟ led แทนหลอดไว้แบบเก่า

ช่วยประหยัดไฟ

หลายคนอาจจะคุ้มเคยในเรื่องค่าประหยับไฟที่มีทั้งหมด 5 เบอร์ ซึ่งหากอุปกรณ์ไฟฟ้าชิ้นไหนได้สัญลักษณ์เบอร์ 5 จะแสดงได้ถึงสามารถช่วยประหยัดได้ดีอย่างมาก ซึ่งหากเลือกใช้หลอดไฟ led แทนหลอดไส้ หรือหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ จะช่วยพลังงานได้ถึง 75% ทำให้เป็นที่นิยมในการนำไปใช้งานในบ้าน รวมถึงสถานที่ที่ต้องมีการใช้งานหลอดไฟเป็นจำนวนมากอย่าง การใช้งานในโกดัง โรงงาน หรือคลังสินค้าต่าง ๆ อีกด้วย

ไม่ทำให้ห้อง หรือสถานที่โดยรวมเกิดความร้อนได้ง่าย

ในหลายครั้ง หากเราเปิดไฟหลอดเป็นเวลานาน เราอาจสัมผัสได้ถึงรังสีความร้อนที่มาจากขดลวดข้างในหลอดไฟที่กำลังทำงานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหากเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ มีการเปิดใช้งานหลอดไฟพร้อม ๆ กันหลายดวง ความร้อนเหล่านี้อาจแพร่กระจายไปทั่วสถานที่ ทำให้มีความร้อนเพิ่มมากขึ้นได้ แต่การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ led ซึ่งมีความร้อนค่อนข้างต่ำมากเป็นพิเศษ จะทำให้ห้องและสภาพแวดล้อมมีความร้อนที่เกิดจากแสงไฟ นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระของเครื่องทำความเย็น หรือเครื่องปรับอากาศภายในบ้านไปได้อีกด้วย ซึ่งเท่ากับประหยัดไฟไปได้อีกต่อหนึ่ง

มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และพร้อมให้แสงสว่างที่มั่นคงตลอดการใช้งาน

หลอดไฟนับว่าเป็นอีกหนึ่งทรัพยากรที่ย่อยสลายได้ยาก หากหมดอายุการใช้งานไว ก็จำเป็นต้องหาหลอดไฟใหม่มาเปลี่ยนอยู่เสมอ ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการเพิ่มภาระขยะให้มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งการเลือกใช้หลอดไฟ led ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสามารถใช้ได้นานถึง 50,000 ชั่วโมง และมีอายุการใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 10 ปี รวมถึงสามารถให้ความสว่างที่มากกว่าแ ละคงที่กว่าหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ที่ใช้กันโดยทั่วไปได้เป็นอย่างดีอีกด้วย