เข้าใจการเก็บและนโยบายคุกกี้ เพื่อท่องโลกเว็บไซต์อย่างสบายใจ
- จิปาถะ อื่นๆ
-
j.jasmine
- 1
- 29 ส.ค. 2565 17:48
- 124.122.132.***
หลังจากพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้สังคมเริ่มตื่นตัวกับคำว่า PDPA มากขึ้น เพราะเกี่ยวเนื่องกับการใช้ชีวิตประจำวันในโลกออนไลน์ และการสื่อสารในโซเชียลมีเดีย เพราะว่าด้วยเรื่องของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โลกดิจิทัล ตลอดจนทำให้เว็บไซต์ต่าง ๆ ตื่นตัวในการปฏิบัติตามกฎหมาย นั่นคือ การประกาศนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy) แก่ผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์นั้น ๆ ว่า ทางเว็บไซต์จะเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ของคุณเพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์ ประมวลผล และพัฒนาเว็บไซต์เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์นั้น ๆ ให้ดียิ่งขึ้น หากคุณยังสงสัยว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไรกันแน่ ลองตามไปดูกัน
ปัจจุบันหากคุณลองเข้าเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง บริเวณแถบล่างในหน้าแรกของเว็บไซต์จะขึ้น POP UP กล่องข้อความขึ้นมามีเนื้อหาประมาณว่า “เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า” และในกล่องข้อความเดียวกันนั้นจะมีปุ่มให้เราเลือกคลิกระหว่าง “ตั้งค่า” กับ “ยอมรับ”
หากคุณคลิกที่ “ยอมรับ” หมายถึง คุณยอมรับให้เว็บไซต์นั้น ๆ จัดเก็บข้อมูลส่วนตัวของคุณได้เลย หากคุณคลิกที่ปุ่ม “ตั้งค่า” หมายถึง คุณสามารถเข้าไปเลือกได้ว่าจะให้เว็บไซต์เก็บข้อมูลของคุณในส่วนไหนได้บ้าง เช่น
- คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies) คุกกี้ส่วนนี้จะมีการตั้งค่าให้เปิดใช้งานตลอดเวลา ไม่สามารถไปปิดได้ โดยคุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการของเว็บไซต์ เพื่อให้เราสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่เราเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้เราไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของเว็บไซต์ ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
- คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies) คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เว็บไซต์ทราบผู้ใช้งานใช้บริการอะไรในเว็บไซต์บ้าง และทำให้รู้ว่าหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนใช้ข้อมูลนี้วิเคราะห์ส่วนต่าง ๆ เพื่อพัฒนาการทำงานเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น โดยข้อมูลคุกกี้ที่รวบรวมนี้ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น หากปิดการใช้งานคุกกี้นี้จะทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชม และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
- คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies) คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่เราได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์แสดงผลและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของเรา เช่น ช่วยจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของเรา จดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าต่าง ๆ เช่น ขนาดฟอนต์ ซึ่งเราสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
- คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies) คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่เราเข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์หลักที่เราดู ทั้งนี้ ถ้าเราปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการดูเว็บไซต์หลัก แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของเรา ซึ่งหากเรามองว่าโฆษณาที่เกี่ยวเนื่องกับความสนใจของเรามาปรากฏทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาไปตามหาข้างนอกเว็บไซต์อื่น ๆ การเปิดคุกกี้นี้ไว้ก็จะช่วยได้มาก แต่ถ้าเราไม่สนใจว่าจะมีโฆษณาประเภทไหนโผล่ขึ้นมา ก็สามารถปิดคุกกี้นี้ได้เช่นกัน
เมื่อเราตั้งค่าคุกกี้ต่าง ๆ เรียบร้อยก็คลิกที่ปุ่ม “บันทึกการตั้งค่า” ก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีสำหรับเว็บไซต์นั้น ๆ ซึ่งกล่องข้อความที่ประกาศว่าเว็บไซต์จะมีการเก็บข้อมูลตามนโยบายคุกกี้ นั้นคือ Cookie Popup หรือ Cookie Banner ซึ่งเป็นวิธีการขอเก็บคุกกี้ เพื่อให้ผู้ใช้เว็บไซต์ยอมรับให้เว็บไซต์เก็บข้อมูลส่วนบุคคล
ส่วนนโยบายคุกกี้ เป็นการแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ของการใช้คุกกี้ ซึ่งทุกเว็บไซต์จำเป็นต้องมีทั้งการประกาศนโยบายคุกกี้ เพื่อแจ้งรายละเอียดการเก็บคุกกี้ และติด Cookie Banner ให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์รับทราบและยิมยอมการเก็บคุกกี้ ถ้ามีทั้ง 2 ส่วนนี้ก็ถือว่าครอบคลุมตาม PDPA
ส่วนคุกกี้ที่ว่าเป็นชุดข้อมูลส่วนตัวของเรานั้น ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ลองเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ บทความเกี่ยวกับกฎหมาย PDPA ที่อ่านง่าย ได้ความรู้ แถมยังเท่าทันการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวในโลกดิจิทัลอีกด้วย
09 ก.ย. 2565