หลายคนที่รู้สึกว่าป้องกันและดูแลผิวหนังไม่ให้โดนฝุ่น ควัน หรือใช้ยาบำรุงแค่ไหน ก็ยังมีอาการเหมือนเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง แถมลมพิษขึ้นอยู่ดี สำหรับใครที่กำลังมองหาต้นเหตุของอาการเหล่านี้ พร้อมวิธีการรักษา วันนี้เราได้รวบรวมมาฝากทุกคนกัน ที่ขอรับรองว่าจะช่วยให้คุณบอกลาภูมิแพ้ผิวหนังและลมพิษแบบหายขาดได้อย่างแน่นอน!

ภูมิแพ้ผิวหนังและลมพิษคืออะไร?

         ลมพิษเกิดจากผื่นคันที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง ซึ่งมักจะเป็นอาการที่เจอได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยจะพบมากที่สุดในกลุ่มคนอายุ 20-40 ปี โดยอาการของภูมิแพ้ผิวหนังและลมพิษมักจะเกิดเป็นผื่นหรือปื้นนูนแดง แบบไม่มีขุยหรือลอก กระจัดกระจายอยู่ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณแขนและขานั่นเอง ซึ่งในคนทั่วไป มักจะเป็นไม่เกิน 24 ชั่วโมง เนื่องจากผื่นจะค่อยๆ จางหายไป หรือบางรายอาจจะมีอาการอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นปวดท้อง แน่นจมูก หายใจไม่ออก หรือมีไข้ขึ้น นอกจากนี้ เราขอแนะนำให้คุณเฝ้าดูอาการของคุณอย่างระมัดระวัง เนื่องจากบางรายที่อาการรุนแรง อาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้

สาเหตุของอาการภูมิแพ้ผิวหนังและลมพิษ

           - แพ้อาหาร

           - แพ้ยา

           - แพ้ฝุ่น ละอองเกสร พืชบางชนิด และขนสัตว์

           - การติดเชื้อจากเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ฯลฯ

           - การสัมผัสสารเคมีหรือสารอันตรายบางประเภท

           - แพ้พิษจากการโดนแมลงกัดหรือต่อย

           - การพักผ่อนไม่เพียงพอ

           - ภาวะความเครียด วิตกกังวล

           - ลมพิษเรื้อรัง โดยอาจจะเกิดจากสาเหตุอย่างเช่น การแพ้แสงแดด การแพ้ความร้อน การแพ้เหงื่อ การแพ้น้ำ เป็นต้น

อยากบอกลาอาการแพ้บนผิวหนัง ลมพิษ ต้องรักษาอย่างไร?

           - หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ลมพิษ

           - หมั่นสังเกตอาการผิดปกติอย่างใกล้ชิด

           - หลีกเลี่ยงไม่รับประทานอาหารที่เสี่ยงก่อให้เกิดอาการแพ้ได้

           - ดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่ให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป

           - ไม่แกะเกาผิวหนัง รวมทั้งหลีกเลี่ยงการขีดข่วน 

           - หากมีอาการ ควรรีบไปพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมงทันที

           - ใช้ยา คาลาไมน์โลชั่น เพื่อบำรุงและทาบริเวณผื่นลมพิษขึ้นเพื่อช่วยลดอาการคันได้

        เป็นยังไงกันบ้างสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับอาการภูมิแพ้ผิวหนังและลมพิษ รวมทั้งวิธีการป้องกันรักษา ที่เราขอแนะนำว่าหากอาการของคุณยังไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาการสามารถเพิ่มขั้น รุนแรงขึ้นได้ รวมทั้งอาจมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ได้อีกด้วย