• มอไซค์ คาเฟ่
  • copycase22
  • 0
  • 08 ก.ค. 2565 13:17
  • 58.8.153.***

 

 

 

 อาจจะห่างหายจากจอโทรทัศน์ไปบ้าง จนไม่ค่อยได้เห็นฝีมือลายมือการแสดง แต่เมื่อได้พูดคุยกับ 'จอห์นนี่ แอนโฟเน่' ดาราหนุ่มวัย 47 ปี เขาได้พลิกบทบาทจากคนเบื้องหน้าสู่การเป็นคนเบื้องหลังในมาดผู้บริหารเสียมากกว่าหลายปีมานี้ คุณจอห์นนี่ทุ่มเทไปในส่วนของงานบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ นั่นคือ "เชิร์ช เอนเตอร์เทนเมนต์"และ "สปีด ชาแนล" รวมถึงอีกหลายโปรเจ็กต์ที่เขาเพิ่มขึ้นมา "เชิร์ช เอ็กซ์" และ สตูดิโอสำหรับถ่ายละคร

     "ผมอิ่มตัวกับงานละครแล้วนะ แต่ผมไม่เคยพูดว่าจะเลิกเล่นละคร เพราะยังมีคิดถึงมันอยู่บ้าง เพียงแต่ระยะหลังผมไม่ค่อยมีเวลา ซึ่งก็มีพี่ๆ ติดต่อผมเข้ามาอยู่เหมือนกัน อยากให้เล่นบทนั้นบทนี้ แต่ผมจะบอกไปว่าขอบทอย่าเยอะนะ" แล้วตัวผมเองเป็นคนที่มีชีวิตส่วนตัวสูงมาก ไม่ชอบความวุ่นวาย เมื่อก่อนเราทำเพราะต้องทำ การเป็นคนเบื้องหน้าเป็นพระเอก จะให้เก็บเนื้อเก็บตัวก็ไม่ได้ ดังนั้นพอได้จังหวะก็ถอยสกรูกลับมาอยู่ข้างหลัง ตอนนี้ผมจะดูแลภาพรวมของบริษัทร่วมกับกันคุณวิบูลย์ ลีรัตนขจร หุ้นส่วนที่ร่วมก่อตั้งบริษัทขึ้นมา ทั้ง เชิร์ช เอนเตอร์เมนท์ ปีนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 22 ช่องสปีดชาแนล รวมถึง เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป เป็นบริษัทที่ผลิตละครป้อนให้กับทางช่อง 3 มีคุณนก จริยา แอนโฟเน่ เป็นผู้ดูแล

     ล่าสุดผมพึ่งแตกไลน์ธุรกิจออกมาอีกสองตัว คือ เชิร์ชเอ็กซ์ ซึ่งจะผลิตรายการเหมือนกัน แต่บริษัทนี้จะไม่มีโปรดิวเซอร์ ไม่มีตากล้อง มีแค่ผม ผู้ช่วย พนักงานบัญชีประมาณว่าใครที่อยากทำรายการแต่ไม่มีทุน คุณเอาไอเดียมาเสนอ ถ้าคุยกันถูกคอ คุณไปผลิตรายการเอง ผมซัพพอร์ตเรื่องเงินให้ หาช่องทางในการออกอากาศให้ ช่วยขายโฆษณาส่วนเรื่องรายได้เรามาแบ่งกัน อีกอันจะเป็นสตูดิโอที่ใช้สำหรับถ่ายละครและรายการของตัวเอง กำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง"มุมมองของเราที่มีต่อคุณจอห์นนี้ เขาคือหนึ่งในบุคคลวงการบันเทิงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง - เริ่มต้นจากการเป็นนายแบบ เคยอยู่วงดนตรี "แกรนด์เอ็กซ์" มีผลงานละครและภาพยนตร์รวมกันไม่ต่ำกว่า 70 เรื่อง และได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง สาขาผู้แสดงนำชายยอดเยี่ยม เป็นเกียรติยศส่วนตัวหากแต่มองมุมของเขาบ้าง เชื่อไหมว่าผู้ชายคนนี้กลับไม่เคยคิดเรื่องวงการบันเทิงอยู่ในหัวแม้แต่นิดเดียว

     "สมัยที่ผมยังเป็นวัยรุ่น ผมไม่เคยสนใจวงการบันเทิงเลยไม่รู้ว่ามันคืออะไร ความฝันของผมคือเป็นกัปตันเครื่องบินเพราะตอนเด็กๆ ผมได้เห็นคุณอาที่อยู่ในละแวกบ้านเดียวกันเขาเป็นกัปตันเครื่องบิน แล้วมีไลฟ์สไตล์ที่สำราญมาก ขับรถสปอร์ต ได้ไปต่างประเทศบ่อย ออกแนวเป็นหนุ่ม PLAYBOYไม่แต่งงาน ไม่มีลูก ถ้าไม่ได้เป็นกัปตันเครื่องบิน ก็ต้องเป็นสจวร์ต ความฝันผมมีอยู่แค่นี้

"แต่จังหวะชีวิตคนมันไม่แน่ไม่นอน 

     โดยช่วงที่ผมเรียนมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ตอนนั้นผมเป็นสมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์และผมก็ตัดสินใจขอลาออกจากวง เพราะมีเป้าหมายอยู่ในใจแต่เผอิญชีวิตหักเห ดันถูกทาบทามให้มาเล่นละครเสียก่อนซึ่งนับเป็นละครเรื่องแรกของผมด้วย พอมาเล่นเท่านั้นแหละทีนี้รันยาวต่อเนื่องเลย และจะว่าไป รายได้มันก็ดีเอามากๆเชื่อไหมว่า ผมไม่มีเวลาที่จะเอาเช็คไปขึ้นเงิน จนทางธนาคารและต้นสังกัดต้องโทรมาบอกให้ผมรีบเอาเช็คไปขึ้นเงินดังนั้น ถ้าจะมองถึงเรื่องประสบความสำเร็จ ผมก็พอใจนะครับ เพราะอย่างที่บอกไปว่าเราไม่เคยคิดจะมาทางนี้แล้วจู่ๆ วันหนึ่ง ก็กลายเป็นนายแบบแถวหน้าของวงการมีชื่อเสียง ได้อยู่กับวงดนตรีที่ดังสุดๆ ในยุคนั้น"แม้งานจะรัดตัว แต่สำหรับงานการกุศล PLAYBOY Billionaires for Charity 2015 คุณจอห์นนี่ได้ให้เกียรติเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน และทำการประมูลกล้อง Leica ของคุณบี้ ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์ ช่างภาพมือโปรของเมืองไทยมาครอบครองด้วย

     "สำหรับการช่วยเหลือสังคม ทางบริษัทร่วมมือกับศิริราชมูลนิธิมาโดยตลอดครับ เพราะหากใครเคยไปโรงพยาบาลศิริราช คุณจะรู้เลยว่าปัญหาที่เป็นอยู่ตอนนี้คือ ห้องผู้ป่วยไม่เพียงพอ คนไข้นอนกันตามทางเดินเต็มไปหมด ใครจะทำการรักษา คุณต้องรอคิวนานมาก ซึ่งครั้งหนึ่งพนักงานในบริษัทป่วยเป็นมะเร็ง แล้วเขาเข้ารับการรักษาไม่ทัน สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเขาไว้ได้ ดังนั้น เราเลยคิดว่าจะช่วยเหลือโรงพยาบาลอย่างไรได้บ้าง เช่น งานคอนเสิร์ตทีวี 3 สัญจรเราก็ให้ทีมงานของโรงพยาบาลศิริราชไปกับเราด้วย มีช่วงคั่นเวลาที่ให้ทีมงานขึ้นไปพูด ขอรับบริจาคเงินเพื่อนำเงินไปสร้างอาคาร ชี้ออุปการณ์เครื่องมือแพทย์ อะไรทำนองนี้ส่วนตัวผมเองจะเน้นเรื่องการทำบุญ สร้างวัด สร้างโรงเรียนครับ แต่จริงๆ ผมไม่ใช่มนุษย์กิจกรรมเท่าไหร่ เลยไม่ได้เป็นโต้โผที่จะคอยมานั่งจัดทำครงการอาสา หรือการกุศลเพราะทุกวันนี้งานผมก็เยอะมาก อาศัยว่าใครจัดกิจกรรมอะไรขอแรงให้ไปช่วย ถ้ามีเวลาผมก็ไปร่วม ทั้งนี้ ทำบุญน่ะทำได้แต่ถ้าเป็นการช่วยเหลือแบบให้เปล่า ผมไม่ค่อยอยากทำ เพราะมันไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา ดั่งคำสอนของในหลวงที่ทรงตรัสว่า เราไม่ควรให้ปลากับชาวบ้าน แต่ควรจะให้เครื่องมือออกไปหาปลา คุณให้เงินให้อาหาร ถึงเวลาก็หมดแต่ถ้าคุณให้เครื่องไม้เครื่องมือที่เขาพอจะไปสร้างอาชีพเพื่อหารายได้ หรือเงินทุนการศึกษาเพื่อให้เด็กๆ ได้มีโอกาสเรียนผมว่าตรงนี้น่าจะมีประโยชน์มากกว่าและที่ผมสนใจอยู่ตอนนี้ คือ Social Enterprise (SE)ว่าด้วยเรื่องของการช่วยเหลือสังคมโดยที่ผู้รับมีผลประโยชน์

ร่วมกัน และเขาสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง อย่างที่ผมเรียนมาล่าสุดกับเพื่อนๆ สถาบันวิทยาลัยการตลาดทุนรุ่น 20 เราได้ มีความคิดที่จะจัดโครงการ SE นี้ขึ้นมา ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล โดยให้ผู้ที่สนใจเสนอโปรเจ็กต์เข้ามาแล้วพรีเซ้นท์ จากนั้นจะทำการคัดเลือกว่าโปรเจ็กต์ตัวไหนที่น่าจะพัฒนาได้ เราก็ผลักดันโปรเจ็กต์นั้นเพื่อให้เกิดขึ้นจริง"

     และจากการที่เขาคร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงมากว่า 30 ปีจึงมองเห็นจุดด้อยที่ต้องปรับปรุงและอยากพัฒนาให้มันดีขึ้นโดยเฉพาะตัวบทละครที่เขายังรู้สึกว่าไม่หลากหลายเท่าไหร่"ที่ผ่านมา ผมคุยกับเพื่อนหลายคนที่เป็นคณบดีตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เรามีคณะนิเทศศาสตร์ อักษรศาสตร์ซึ่งใจผมอยากให้มีเอกการเขียนบท เพราะบทละครควรจะเป็นหัวใจหลักของเรื่อง มีทีมทำบทที่โปรเฟสชั่นแนล ทุกวันนี้มันยังเหมือนเดิม มีคนเขียนบทอยู่ไม่กี่คน คนนึงเขียน 7 - 8 เรื่องฉะนั้นบทมันไม่หลากหลาย ไม่เข้มข้นจากการพูดคุย หลายคนยังสงสัยว่าเมื่อเด็กจบมาแล้วจะมีงานทำไหม ซึ่งผมคงตอบไม่ได้ตอนนี้ แต่มันต้องหาวิธีคัดกรองเพื่อให้ได้คนเขียนบทที่จะเข้าใจชีวิตมนุษย์อย่างแท้จริงเข้าใจความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ต่างๆ แล้วสะท้อนออกมา ฉะนั้นคนเขียนบทจึงต้องมีวุฒิภาวะพอสมควร แต่หลายครั้งที่คุยกันเราเห็นตรงกันว่าหลักสูตรปริญญาตรีอาจจะยังเด็กเกินไป

 

ทดลองเล่นสล็อตฟรี

 

     ดังนั้นอาจจะปรับขึ้นมาอีกสเต็ป คือหลักสูตรปริญญาโทรับแค่ 10 คน แล้วการันตีงานให้เขาทำทั้ง 10 คน มันน่าจะเป็นไปได้มากขึ้น โดยให้เขาได้เขียนบทละครจริงๆ เพื่อใช้ถ่ายทำออนแอร์ออกอากาศจริง เพื่อที่จะให้เขาได้รู้ว่าผลงานของเขาออกมาเป็นอย่างไร ดีหรือไม่ดี มีคนชอบหรือไม่ชอบ"เมื่อถามถึงปรัชญาของพี่จอห์นนี่ในการช่วยเหลือสังคมเขาตอบกลับมาง่ายๆ แบบไม่ต้องคิดนาน"ผมไม่รู้ว่ามันเป็นปรัชญาหรือเปล่า แต่ผมเชื่อเสมอว่าเมื่อคุณเป็นผู้ให้ ถึงเวลาคุณก็จะเป็นผู้รับ คุณไม่มีทางจนตรอกอาจจะไม่ต้องกลับมาในรูปแบบของเงินเสมอไป อาจจะมีทั้งกำลังใจ การช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งทำให้คุณเดินหน้าต่อไปได้"ต้องยอมรับว่าจากที่นั่งสัมภาษณ์พูดคุยนับชั่วโมง ผู้บริหารมาดเท่คนนี้เป็นคนที่ทำงานหนักมาโดยตลอดตั้งแต่เข้าวงการบันเทิง จนแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อน และดูเหมือนจะกลายเป็นความสำเร็จที่เขากำลังควานหา

     "หากถามผมว่าอะไรที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ก็คงจะเป็นเรื่องนี้แหละครับ บริหารเวลาไม่ได้สักที (หัวเราะ) วางแพลนจะไปเที่ยว นัดเพื่อนไปดินเนอร์ หาเวลาไปตีแบดกับลูก สุดท้ายก็ไม่ได้ไป เพราะติดงาน เดี๋ยวคนนั้นโทรตาม คนนี้นัดประชุมตอนนี้ถ้าเป็นไปได้ก็อยากที่จะทำงานสักหนึ่งชิ้นต่อวัน ที่เหลือก็พักผ่อน แต่ก็ยังทำไม่ได้ คือผมก็พยายามกระจายความเสี่ยงไปยังคนอื่น บริษัทนี้ คุณวิบูลย์ดูแล บริษัทนี้ คุณจริยาดูแลถ้ามารออำนาจการตัดสินใจจากผมคนเดียว มันไม่ได้

     "ก่อนหน้านี้ ผมพึ่งไปบวชมาได้สองเดือน ความตั้งใจคือ การได้อยู่สงบๆ เพราะมันเป็นหนทางเดียวที่จะได้พัก ก็เลยเลือกหนทางนี้ โดยตอนแรกคิดว่าจะบวชแค่ 12 วัน ไปๆ มาๆบวชแล้วเพลินเลยลากยาวเป็นสองเดือน

     "นั่นแหละครับ สิ่งที่เฝ้าใฝ่ฝันมาตลอด อยากหาเวลาพักผ่อน อยู่กับครอบครัว ใช้เงิน ไปเที่ยวในที่แปลกๆ เช่นทะเลแปชิฟิกใต้ เกาะตาฮิติ เกาะฟิจิ เพราะถ้าเราอายุ 60 - 70 คงจะทำแบบนั้นไม่ได้ ก่อนที่จะหมดแรงเที่ยว"