เอ่อ..คือว่า..อ่า..มันก็น่าจะเป็นได้ทั้ง 2 สาเหตุ แหละครับ ..แต่โดยทั่วไปอาการที่ว่ามักจะเป็นที่สาเหตุหลักมากกว่า หากมีอาการเครื่องดังร่วมด้วย นั่นก็คืออาการ "เครื่องหลวม" ครับ..แต่ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ทำไม่รถเราถึงมีควันขาว และน้ำมันเครื่องหดไป..ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่รถ 2 จังหวะ ..อาการฟันขาวของรถสี่จังหวะ หากเกิดขึ้นถือว่าเป็นอาการผิดปกติ และน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่งครับ ..หากแต่กับรถ 2 จังหวะนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ ธรรมดามากๆ ครับ (ไม่มีควันนี่ซิ จะผิดใจเอา..หาว่า 2Tลงน้อย เครื่องจะน็อคไปนั่น)..เหตุเนื่องจากเครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะ ต้องอาศัยน้ำมัน 2 ที สำหรับหล่อลื่นห้องเผาเม่า ผิวกระบอกสูบ ลูก แหวน ก้าน แกน โดยอาศัยหลักการผสมชงเข้ากับไอดีโดยตรง (ไอดี = เหล้า+โซดา+น้ำ บางๆ) มะช่าย..น้ำมันเชื้อเพลิง กับ อากาศ ตะหาก...ซึ่งการเผาไหม้ของน้ำมันหล่อลื่นเราก็รู้ๆ กันอยู่แล้วว่ายังไง๊ ยังไงมันก็เผาไหม้ได้ไม่หมดจดแบบเต็มๆ หรอกครับ เพราะว่ามันไม่ใช่น้ำมันเชื้อเพลิง ..ก็นั่นนะซิ ..แต่หลังๆ มามีสูตรลดควันขาว และของคุณภาพดีๆ ก็พอช่วยเยียวยากันได้อยู่ เหตุนี้รถ 2 จังหวะจึงต้องมีควันครับ ..ถึงไม่มีในวันนี้ ในวันหน้าก็ต้องมี.. แต่ถ้ามีมากๆ นั่นก็เป็นปัญหาขอรับ.. ..สี่จังหวะควันขาว น้ำมันหด สำหรับรถไม่เก่ามาก แก้ไขได้ไม่ยากครับ.. .ส่วนอาการของรถเก่าๆ แก่ๆ มากๆ แล้ว..แก้ไขค่อนข้างยาก เนื่องจากแหวนไม่สามารถกวาดน้ำมันลงมาได้สะดวกโยธินดังเดิม อันเกิดจากการค้างของน้ำมันเครื่องตาม ร่อง เหลี่ยม เว้า ลึก ที่เกิดจากการสึกหรอของชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากใช้งานมายาวนาน หรือตัวแหวนน้ำมันเองที่หมดสภาพแล้ว...น้ำมันเครื่องบางส่วนจึงตกค้างอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ โดยไม่ไหลย้อนกลับลงมา.. พอค้างอยู่ บางส่วนมันก็เลยต้องถูกเผาทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ อันเป็นสาเหตุของน้ำมันเครื่องมันหาย และหดลง ..แถมการเผาไหม้ยังเป็นแบบไม่หมดจดซะด้วย..เพราะด้วยคุณบัติของตัวมันเองที่หน้าที่หลักเค้าสร้างมาเพื่อหล่อลื่น ..ไม่ใช่เอามาเผาเป็นพลังงาน..มันจึงขาดคุณสมบัติด้านการเผาไหม้ไปอยู่หลาย เผาเลยได้ไม่ดี..เมื่อไม่ดี จึงได้ชื่อว่า เป็นการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์สูงสุด..เมื่อไม่สมบูรณ์สูงสุด..ผลที่ได้ก็คือ "ควัน" ครับพี่น้อง..เป็นปัญหาที่เจ็บปวดเหลือเกินสำหรับคนรักรถอย่างเราๆ... ..วิธีการแก้ไข ให้เข้าร้านซ่อมครับ (เป็นคำตอบสุดท้าย) ในขั้นตอนนี้ หากไม่มีความชำนาญพอ ไม่แนะนำให้ทำเองครับ เพราะต้องมีตำแหน่งมาร์ควาล์ว ราวลิ้น ยุ่งยากพอควร ที่สำคัญมันเปื้อนด้วยครับ...ให้ช่างจัดการรื้อเครื่องช่วงบนออกมาดู ..ช่างเค้าจะพิจารณาดูให้หมดแหละครับ ต้องรื้อออกมาครับถึงจะรู้สาเหตุแบบชัดๆ...แล้วจัดการแก้ไขไปตามนั้น...ผมแนะนำให้ทำทั้ง 2 อย่างครับ คือ วาล์ว และ เครื่อง ในคราวเดียวกัน (แม้สาเหตุจะแค่อาการเดียว) ดังนี้ - สั่งเปลี่ยน ลูก+แหวน+สลัก เน้นของแท้ และปะเก็นชุดใหญ่ 1 ชุด แท้/ไม่แท้ก็ได้ .. ดูถ้าหากผิวกระบอกสูบเป็นรอย หรือเกิดร่องลึก ให้ทำการคว้านเปลี่ยนขนาดไซค์ใหม่ แต่ปลอกสูบของบอสจะบางครับ (ของเค้าดี ไม่จำเป็นต้องหนา 5 5 5) คงคว้านได้ไม่น่าเกิน 2 ไซค์ ... แต่หากทุกอย่างกินอย่างปกติ ไม่ตบ ไม่กินข้าง หรือเป็นรอยเล็กน้อยไม่มาก ก็ใช้การแก้ไขลูบผิวหน้าให้เรียบก็พอ...ไม่อยากให้คว้านครับ เพราะเค้าได้เคลือบผิวหน้าลื่นไว้ให้อยู่แล้ว..เสียดายของ ..เปลี่ยนลูก+แหวน สลัก ไซค์เดิมก็พอ...ปะเก็นด้วยนะ..(เซ็ทนี้ราคา+ค่าแรง ไม่เกิน 2 พันเด็ดขาดครับ) - ส่วนเรื่อง "วาล์ว" ช่างเค้าจะพิจารณาให้เองว่าอาการ ยังใช้ได้หรือไม่ หนัก เบา รั่ว แค่ใหน ควรจะดำเนินการเช่นไร เช่น เปลี่ยน ปรับตั้งใหม่ บด ย้ำ เป็นการแก้ไขตามอาการครับ...คิดว่าหาย (เซ็ทนี้ไม่รู้ราคาครับ ไม่เคยทำ ..ของเค้าดี ฮี่ ฮี่ ฮี่..) อายุรถแค่นี้ ไม่น่าพังนะ

... รถกี่ปีแล้วครับ อาจจะเริ่มแหวนหลวมแล้วก็ได้ครับ