ถึงแม้การต่อพ.ร.บ.จะเป็นเรื่องที่ผู้ขับขี่ทุกคนจำเป็นต้องทำกันเป็นประจำทุกปี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่อาจจะไม่ทราบว่าจริงๆ แล้ววัตถุประสงค์ของการต่อพ.ร.บ.รถยนต์รวมไปถึงสิทธิที่เราพึงจะได้รับนั้นมีอะไรบ้าง และเพื่อเป็นการพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพ.ร.บ.กันมากขึ้น วันนี้เราจึงได้รวบรวม 4 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพรบ รถยนต์และราคาในปัจจุบันมาให้บรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งหลายได้ลองไปศึกษากัน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะเป็นยังไง ลองตามไปดูกันได้เลย

พ.ร.บ.รถยนต์คืออะไร?

ก่อนจะพาทุกคนไปหาคำตอบว่าในปัจจุบัน พรบ รถยนต์ราคาเท่าไร เราอยากจะอธิบายถึงความหมายของพ.ร.บ. กันสักเล็กน้อย โดยพ.ร.บ. หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 คือประกันรถยนต์ภาคบังคับที่กฎหมายระบุให้ยานพาหนะทุกคันจำเป็นต้องมี เพื่อให้ทั้งตัวผู้ขับขี่เองและคู่กรณีได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน โดยประกันดังกล่าวจะให้การดูแลในเรื่องของค่ารักษาพยาบาล และการจ่ายเงินชดเชยในกรณีทุพพลภาพ, สูญเสียอวัยวะ และเสียชีวิต

ถ้ามีประกันรถยนต์อยู่แล้วไม่ต่อพ.ร.บ. ได้ไหม?

 เนื่องจากพ.ร.บ.เป็นประกันรถยนต์ภาคบังคับ ดังนั้นหากเราไม่ทำหรือไม่ต่อพ.ร.บ. ก็เท่ากับว่าเราทำผิดกฎหมาย ซึ่งรายละเอียดในส่วนนี้จะต่างกับประกันรถยนต์ของบริษัทเอกชนที่เป็นประกันภาคสมัครใจซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ นอกเหนือไปจากความแตกต่างในด้านของกฎหมายแล้ว ประกันทั้งสองประเภทนี้ยังมีรายละเอียดที่แตกต่างกันในเรื่องของความคุ้มครองอีกด้วย เนื่องจาก พ.ร.บ. จะเน้นรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลและการจ่ายเงินชดเชยให้กับตัวบุคคลเป็นหลัก แต่ในขณะที่ประกันภาคสมัครใจจะให้ความดูแลที่ครอบคลุมไปถึงค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ รวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลและเงินทดแทนในกรณีเกิดอุบัติบนท้องถนน 

ในปัจจุบัน พรบ รถยนต์ราคาเท่าไหร่?

หากยึดตามข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พรบ รถยนต์จะมีราคาแตกต่างกันไปตามประเภทของรถ สำหรับรถโดยสารทั่วไปประเภทรถเก๋งหรือรถโดยสารไม่เกิน 7 ที่นั่ง ค่าเบี้ยจะอยู่ที่ 600 บาท ส่วนรถประเภทอื่น เช่น รถตู้ และรถกระบะ ค่าเบี้ยต่อปีจะอยู่ที่  1,100 บาท และ 900 บาทตามลำดับ

หากเกิดอุบัติเหตุจะเคลมยังไง?

ขั้นตอนการเคลมพ.ร.บ. นั้นสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เราลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลพร้อมแจ้งให้ทางโรงพยาบาลออกใบรับรองแพทย์และใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลให้กับเรา หลังจากนั้นให้นำเอกสารทั้งหมดนี้ไปยื่นกับบริษัทที่เราซื้อพ.ร.บ. เพื่อให้ทางบริษัทดำเนินการจ่ายเงินทดแทนเป็นลำดับต่อไป

หวังว่าบทความของเราว่าด้วยเรื่องของการบอกต่อข้อมูลเกี่ยวกับ พรบ รถยนต์และราคาในปัจจุบันคงจะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนไม่มากก็น้อยน่ะ