การลดน้ำหนักที่ยากslotxo ใหม่ล่าสุดการขุนตัวเองก็ยากเช่นกัน สำหรับสิ่งมีชีวิตอย่างแมวน้ำช้าง บางคนเรียกมันว่าแมวน้ำช้าง หรือในภาษาอังกฤษว่า แมวน้ำช้าง เพราะการศึกษาใหม่ระบุว่าแมวน้ำช้าง จะต้องพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาโรคอ้วนเพื่อให้อยู่รอด

งานวิจัยล่าสุดนี้ ศึกษาพฤติกรรมการกินอาหารของแมวน้ำช้างภาคเหนือ โดยเฉพาะแมวน้ำช้างเพศเมีย ในระหว่างการอพยพสองเดือนในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกเฉียงเหนือ จากที่ที่พวกเขาใช้เวลา 20-24 ชั่วโมงต่อวันในการดำน้ำลึกใต้น้ำอย่างต่อเนื่อง แมวน้ำช้างกินอาหารได้มากถึง 1,000-2,000 มื้อต่อวันเพื่อกักเก็บไขมันที่จำเป็นต่อการเดินทาง ผสมพันธุ์ และอบอุ่นร่างกายบนเส้นทางใต้ทะเลลึกที่หนาวเย็น

Taiki Hadashi จาก St Andrews University ในสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นผู้นำการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Advances ได้รวบรวมแมวน้ำช้าง 48 ตัวที่ Año Nuevo State Park ในแคลิฟอร์เนียในช่วงเวลาดังกล่าว ปี 2554 และ 2561 ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่แมวน้ำช้างจะขุนให้อ้วนเองโดยเดินทางกลับใต้มหาสมุทรประมาณ 17,600 กิโลเมตรสำหรับตัวเมีย และตัวผู้มากกว่า 20,000 กิโลเมตร

ทีมวิจัยได้ใช้อุปกรณ์ติดตามสามตัวบนแมวน้ำช้างเหล่านี้ โดยติดเครื่องติดตามอันแรกเข้ากับขากรรไกรเพื่อจับจังหวะของอาหารและวัดความลึกของน้ำที่แมวน้ำช้างดำดิ่งลงไป ส่วนที่สองเป็นอุปกรณ์ติดอยู่บนหัวของแมวน้ำช้าง เพื่อกำหนดทิศทางการเคลื่อนที่ของมหาสมุทร และอุปกรณ์ที่สามคือกล้องขนาดเล็กที่มีไฟ LED และอินฟราเรดและเซ็นเซอร์ความลึกของน้ำ ที่ติดเศียรตราช้างด้วย

แมวน้ำช้างเป็นตระกูลแมวน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใหญ่เป็นอันดับสองในมหาสมุทรรองจากปลาวาฬ

แมวน้ำช้างได้รับการตั้งชื่อตามจมูกขนาดใหญ่ของแมวน้ำช้างตัวผู้ ซึ่งมองดูเหมืองด้วยงวงช้าง มีแมวน้ำช้างสองชนิด คือ แมวน้ำช้างเหนือ และแมวน้ำช้างใต้ที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย

แมวน้ำช้างตัวผู้ที่โตเต็มวัยสามารถยาวได้ถึง 4 เมตรและหนักกว่า 2,000 กิโลกรัม ในขณะที่ตัวเมียมีขนาดเล็กกว่ามาก มีความยาวลำตัวสูงสุด 3 เมตร และมีน้ำหนักสูงสุดประมาณ 590 กก.

วิธีการหาอาหารของแมวน้ำช้างตัวผู้กินน้ำชายฝั่ง และอาศัยอาหารโดยการดำน้ำให้เพียงพอกับขนาด เหมือนวาฬที่ต้องว่ายลึกลงไปในทะเลเพื่อล่าปลาหมึกเป็นอาหาร

ฮาดาชิอธิบายว่าแมวน้ำช้างเพศเมียมีแนวทางที่แตกต่างออกไป เพราะเลือกกินปลาเล็กในปริมาณมาก แต่เป็นการยากที่จะหาอาหารเพียงพอสำหรับร่างกาย พวกเขาต้องดำดิ่งลงไปในทะเลลึกเพื่อหาอาหาร ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการดำน้ำเพื่อหาอาหารใต้น้ำ และครั้งละ 1,000 นาทีที่ความลึกเฉลี่ยครั้งละ 1,000 - 2,000 ฟุต แต่มีบันทึกว่าบางคนสามารถดำน้ำได้เกือบ 6,000 ฟุตเพื่อเป็นอาหาร และใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีในการขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำทีละครั้ง

หัวหน้านักวิจัยกล่าวเสริมว่าแมวน้ำจะไม่กลับคืนสู่พื้นดินเป็นเวลาสองเดือนเต็มในช่วงระยะเวลาการย้ายถิ่นประจำปี และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในมหาสมุทรขนาดยักษ์นี้เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ เช่น เรื่องการนอนหลับที่นักวิจัยไม่มีคำตอบที่ชัดเจน และจากข้อมูลที่มีอยู่ คาดว่าแมวน้ำช้างจะนอนหลับน้อยกว่า 20% ในแต่ละวัน

ตราช้างภาคเหนือรวมอยู่ในการศึกษาล่าสุดนี้ อาศัยอยู่ในอเมริกาเหนือ รวมทั้งแคนาดา เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา และทุกปีมันออกมาบนชายฝั่งในแคลิฟอร์เนีย ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมีนาคมและในฤดูผสมพันธุ์ แมวน้ำช้างจะไม่กินอาหารใดๆ จนกระทั่งน้ำหนักของมันลดลงเหลือประมาณหนึ่งในสามของน้ำหนักปกติเลยทีเดียว