ทำความรู้จัก ?คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม? โรคที่กระทบต่อคนงานที่ป้องกันได้

  • มอไซค์ คาเฟ่
  • jiraporn748
  • 0
  • 08 ก.ค. 2564 15:33
  • 184.22.127.***

 


หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ "ออฟฟิศซินโดรม" ซึ่งเป็นโรคที่คนทำงานออฟฟิศนิยมกัน แต่การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานๆ ก็ทำให้เกิดโรคอื่นๆ ได้เช่นกัน เช่น Computer Vision Syndrome

วันนี้เราใช้คอมพิวสล็อต ออนไลน์เตอร์ในทุกสาขาอาชีพ รวมถึงการใช้แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานอีกด้วย ทำให้ "โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม" กลายเป็นโรคที่คนทำงานออฟฟิศนิยม

โรคนี้เป็นอาการของคนทำงานหน้าคอมนานๆ ส่งผลให้ปวดตา ระคายเคืองตา ตาพร่ามัว ตาแห้ง ตาแดง ตาพร่ามัว และปวดหัวบางครั้ง sometimes

สาเหตุของ “คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม”
อาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรมเกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ไอทีเป็นเวลานานโดยไม่ได้พักสายตา ซึ่งขณะทำงานโดยใช้คอมพิวเตอร์ ดวงตาของเราต้องปรับโฟกัสอยู่ตลอดเวลา

ตาต้องเลื่อนไปมาตามแนวข้อความที่อ่าน หรือต้องเลื่อนดูเนื้อหาบนหน้าจอสลับกันและตอบสนองต่อภาพที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเพื่อให้สมองประมวลผล ในขณะเดียวกันกล้ามเนื้อตาก็ต้องทำงานหนัก ที่มากกว่าการอ่านหนังสือธรรมดา

นอกจากนี้ หน้าจอคอมพิวเตอร์มีสีที่ตัดกันและพิกเซลกะพริบตลอดเวลา ซึ่งเป็นจุดเล็กๆ มากมายที่ประกอบเป็นภาพ และผู้ใช้ยังต้องเพ่งสายตาอยู่นาน ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่ออาการคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม

สามารถป้องกันพฤติกรรมของคอมพิวเตอร์ที่ปรับเปลี่ยนได้
Computer Vision Syndrome (CVS) เป็นโรคที่ป้องกันได้ เพียงแค่ปรับพฤติกรรมในการใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือใหม่มีดังนี้:


ดูแล
การปรับสภาพแวดล้อมและการปรับพฤติกรรมของดวงตา จะช่วยให้อาการดีขึ้น เพราะเมื่อพักสายตาอย่างเหมาะสม ตาพร่ามัว ตาพร่ามัว ตาพร่ามัว และมองเห็นภาพซ้อนจะค่อยๆ กลับมาเป็นปกติตามการมองเห็นพื้นฐานของเรา

ส่วนการรักษาโดยใช้น้ำตาเทียมช่วยบรรเทาอาการปวดตาและแสบตา แพทย์แนะนำน้ำตาเทียมสองประเภท: น้ำตาเทียมรายเดือน (ขวดใหญ่ 1 ขวดเปิดแล้วใช้ได้ 1 เดือน) และน้ำตาเทียมรายวัน (ใช้ได้ 24 ชั่วโมงแล้วทิ้ง) ใช้รายเดือน แต่ถ้าตาแห้งมาก ควรใช้ทุกวัน เพราะสามารถหลุดบ่อยและบ่อยครั้ง

หลังจากหยอดตาแล้วจะช่วยให้ดวงตาของคุณสบายตาขึ้น เหมือนมีสารหล่อลื่นซึ่งในวันแรกมีอาการมาก จำเป็นต้องใช้เป็นประจำจนกว่าแผลเล็ก ๆ ในดวงตาจะหายดี เมื่ออาการค่อนข้างคงที่ จึงค่อยๆ ห่างหยอดตามากขึ้น