ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับรักษาข้อเข่าเสื่อม

  • มอไซค์ คาเฟ่
  • health108
  • 0
  • 15 มิ.ย. 2564 17:44
  • 49.228.144.***

ณ ปัจจุบันนี้ วิธีรักษาข้อเข่าเสื่อมมีทางเลือกมากขึ้น นอกเหนือจากผ่าตัดใส่ข้อเทียมโลหะ เหล็ก ไทเทเนียม หรือพลาสติก ยังมีวิธีรักษาด้วยการฉีดเกล็ดเลือดความเข้มข้นพิเศษ PRGF-2 ( Platelet Growth Factor – 2 ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วย

“เกล็ดเลือด” นำมาใช้รักษาผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมได้อย่างไร?

เกล็ดเลือด (Platelet) คือเซลล์ขนาดเล็ก ที่กระจัดกระจายอยู่ในกระแสเลือดประมาณ 1-2 แสนต่อมล. สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ในอุณหภูมิปกติเป็นระยะเวลานาน  2 - 4 ชั่วโมง ซึ่งในเกล็ดเลือดมีสารประกอบ ที่มีคุณสมบัติช่วยในการรักษามาหลากหลายชนิด

โดยมีสารสำคัญที่ช่วยรักษา https://www.bim100apco.com/16913525/ข้อเข่าเสื่อม ชื่อว่า “Growth Factors” ทำหน้าที่สื่อสารระหว่างเซลล์ ช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย ให้เปลี่ยนไปเป็นเซลล์รูปแบบเฉพาะ ที่เหมาะกับในอวัยวะของร่างกาย ซึ่งวิธีการรักษาแบบนี้ มีการใช้กันอย่างแพร่หลายและปลอดภัยสูง

เกล็ดเลือดชนิดเข้มข้นรักษาข้อเข่าเสื่อม ต่างกับเกล็ดเลือดเข้มข้นทั่วไปอย่างไร?

เกล็ดเลือดชนิดเข้มข้นพิเศษ มีจุดแจกต่างจากเกล็ดเลือดเข้มข้นทั่วไป (PRGF-1) อย่างมาก ซึ่งวิธีนี้มีความบริสุทธิ์ของเกล็ดเลือดสูง ประมาณ 2.5 แสนเซลล์ต่อมล. แต่เกล็ดเลือดเข้มข้นชนิดพิเศษ (PRGF-2) คือการเตรียมเกล็ดเลือดแบบพิเศษ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ประมาณ 1.5 - 2 ล้านเซลล์ต่อมล. หรือมากกว่า ประมาณ 5-10 เท่า

โดยเกล็ดเลือกชนิดนี้ ได้รับการควบคุมดูแลอย่างดี ให้อยู่ในสภาพปลอดเชื้อ ทำให้ได้เกล็ดเลือดที่มีความบริสุทธิ์และเข้มข้น ซึ่งในทุกวันนี้ มีการควบคุมอุณหภูมิต่าง ๆ ให้เกิดความเหมาะสม หรือใกล้เคียงกับร่างกายของผู้ป่วยมากขึ้น เพื่อให้ได้เกล็ดเลือดเข้มข้นพิเศษ ในปริมาณมากพอในการนำมาใช้รักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลการศึกษาวิจัยที่จัดทำโดยประเทศไทย ในการเตรียมเกล็ดเลือดชนิดพิเศษ (PRGF2) รักษาข้อเข่าเสื่อม ร่วมกับการใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากเลือดของผู้ป่วยเอง ที่ได้ลงในวารสารจดหมายเหตุทางการแพทย์แห่งประเทศไทย และวารสารนานาชาติถึง 2 ฉบับ แสดงให้เห็นว่า สามารถลดอาการปวด พร้อมกับช่วยซ่อมแซมกระดูกอ่อนในส่วนที่เสื่อมสภาพ หรือยับยั้งการอักเสบในข้อเข่าได้เป็นอย่างดีและมีความปลอดภัยสูง ประกอบกับมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นกับผู้ป่วยน้อยกว่า เนื่องจากเป็นการรักษาแบบธรรมชาติ ด้วยการใช้เซลล์ของตนเอง จึงไม่มีผลต่อการเกิดเนื้อเยื่อที่ผิดปกติในระยะยาว