น้ำมันปลาและข้อควรระวังในการบริโภค

  • มอไซค์ คาเฟ่
  • jiraporn
  • 0
  • 05 พ.ค. 2564 18:13
  • 184.22.127.***

 


แบ่งปันความslotxoรู้เรื่องสุขภาพโรคภัยไข้เจ็บวิธีออกกำลังกายเคล็ดลับลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพที่ดีอยู่กินของอร่อยนาน ๆ

หนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตามท้องตลาดที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเด็กและผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัยคงหนีไม่พ้น“ น้ำมันปลา” (ไม่ใช่น้ำมันตับปลา) (อ่านเพิ่มเติม >> น้ำมันตับปลากับน้ำมันปลาเหมือนหรือต่างกันอย่างไร) เป็นที่นิยมอย่างมากเนื่องจากน้ำมันปลามีประโยชน์มากมาย ประกอบด้วยทั้ง DHA ซึ่งมีประโยชน์ต่อหัวใจและผิวหนังโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ควบคุมระดับไขมันในเลือดความดันโลหิตบรรเทาอาการปวดและอักเสบจากโรคกระดูก และยังช่วยพัฒนาการของระบบประสาทและสมองอีกด้วย

อย่างไรก็ตามบางคนอาจเถียงในใจว่า Fish oil ไม่จำเป็นเลย เพียงแค่กินปลาทะเลน้ำลึกเช่นปลาแซลมอนปลาซาร์ดีนปลาทูน่าให้บ่อยขึ้นบางทีอาจจะทุกวันหรือมากกว่าสามวันต่อสัปดาห์ ดูเหมือนว่าจะมีประโยชน์ใกล้เคียงกับการรับประทานน้ำมันปลา แต่สำหรับชีวิตของใครก็ตามที่ไม่สามารถหาปลาเหล่านี้มารับประทานได้บ่อยๆ อาจมองว่าน้ำมันปลายังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการส่งเสริมสุขภาพที่ดีได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

แม้ว่าน้ำมันปลาจะมีความปลอดภัยสูง แต่เด็กและผู้ใหญ่ก็สามารถรับประทานได้ดี แต่มีข้อควรระวังเล็กน้อย และศึกษาให้รู้ก่อนวิ่งไปซื้อกิน

ผู้ที่รับประทานน้ำมันปลาเป็นประจำ จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการตกเลือด เนื่องจากโอเมก้า 3 ในน้ำมันปลามีคุณสมบัติต้านการรวมตัวของเกล็ดเลือด และทำให้เลือดออกช้าลงดังนั้นผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการตกเลือดเช่นผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด ผู้ที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ หรือผู้ที่รับประทานยาเช่นแอสไพรินหรือวาร์ฟารินที่มีคุณสมบัติในการลดการแข็งตัวของเลือดคุณอาจต้องรับประทานน้ำมันปลาอย่างระมัดระวัง หากจะเข้ารับการผ่าตัดควรแจ้งแพทย์ก่อนว่ากำลังรับประทานน้ำมันปลา และควรงดน้ำมันปลาอย่างน้อย 14 วันก่อนการผ่าตัด

บางคนอาจมีอาการแพ้น้ำมันปลา เนื่องจากน้ำมันปลามาจากปลาทะเลผู้ที่แพ้อาหารทะเลหากคุณแพ้ปลาหรือปลาคุณอาจแพ้น้ำมันปลาซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนปวดท้องหรือท้องร่วงได้ แต่ถ้าคุณไม่แพ้น้ำมันปลา แต่อย่างใด แต่ยังคงมีอาการดังกล่าวอยู่อาจแก้ไขได้ด้วยการรับประทานน้ำมันปลาหลังอาหารทันที หรือเริ่มจากการรับประทานน้ำมันปลาในปริมาณเล็กน้อยก่อน

ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำอยู่แล้วคุณอาจต้องระมัดระวังในการรับประทานน้ำมันปลา เนื่องจากน้ำมันปลามีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิตอยู่แล้ว

หากคุณรับประทานน้ำมันปลามากกว่าปริมาณที่กำหนด มันอาจเพิ่มปริมาณแคลอรี่ที่เราควรได้รับต่อวัน จนอาจส่งผลต่อร่างกายในทางกลับกันนั่นคือเสี่ยงต่อปริมาณไขมันเลว. และเพิ่มคอเลสเตอรอลและอาจทำให้วิตามินอีในร่างกายลดลงอีกด้วย

นอกจากอาการคลื่นไส้อาเจียนหรือท้องร่วงแล้วยังอาจมีผลข้างเคียงอื่น ๆ อาจเกิดขึ้นเช่นอาการแน่นหน้าท้องอาหารไม่ย่อยหรือเรอบ่อยกว่าปกติเป็นต้น
โฆษณาเล่นซ้ำ
 

อย่างไรก็ตามหากเป็นไปได้เรายังคงแนะนำว่า DHA และ Omega-3 ได้รับประโยชน์โดยตรงจากอาหาร เพราะนอกจากเราจะได้สารอาหารที่มีประโยชน์อื่น ๆ จากเนื้อปลาเหล่านี้แล้ว (โปรตีนชนิดดีไขมันสูงซีลีเนียมสูงและวิตามินดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอีกด้วย) นอกจากนี้ยังมีโอเมก้า 3 จากพืชเช่นเมล็ดแฟลกซ์ถั่ววอลนัทและน้ำมันพืชบางชนิดเช่นน้ำมันรำข้าวและน้ำมันมะพร้าวทำให้ผู้ที่แพ้ปลาทะเลสามารถเลือกรับประทานได้เช่นกัน แต่หากยังต้องการรับประทานน้ำมันปลาก่อนรับประทานควรตรวจสอบ สุขภาพ. และปรึกษาแพทย์เพื่อที่เราจะได้รับประทานน้ำมันปลาที่เหมาะสมกับสุขภาพของเราเองมากที่สุด ประโยชน์ที่แท้จริงจากการรับประทานน้ำมันปลานั้นดีกว่า