5 เทคนิค เขียน meta description ให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการทำเว็บไซต์

  • จิปาถะ อื่นๆ
  • jbtsaccount
  • 0
  • 04 ส.ค. 2563 22:14
  • 171.6.74.***

 

เพราะ seo คือ หัวใจสำคัญในการทำการตลาดดิจิทัล โดยการปรับแต่ง SEO เพื่อให้เว็บไซต์ถูกจัดอันดับในหน้าแรกของ Search Engine นั้นต้องมีการทำ on-page seo หรือการปรับแต่งเว็บไซต์โดยยึดปัจจัยภายในที่ควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็น การทำคอนเทนต์ การใช้คีย์เวิร์ด การตั้งชื่อภาพให้สอดคล้องกับเนื้อหา รวมถึงการทำ Meta Tag และ meta description ซึ่งมีส่วนสำคัญในการดึงดูดคลิก โดย meta tag คือ คำอธิบายคอนเทนต์ที่ต้องการบอกว่าหน้าเว็บไซต์นั้น ๆ กำลังพูดถึงเรื่องอะไร โดยมี meta description (ดูเพิ่มเติมที่: https://www.iprospect-th.com/digital-knowledge/8-checklist-seo-on-page/) ทำหน้าที่อธิบายเพิ่มเติม โดยทั้งสองสิ่งนี้มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เว็บไซต์ติดอันดับ วันนี้เราจึงขอแชร์ 5 เทคนิคการเขียนคำอธิบาย เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับคนทำเว็บไซต์โดยเฉพาะ

1. วิเคราะห์คีย์เวิร์ด    โดยพิจารณาจากคีย์เวิร์ดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายหรือคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหามากที่สุด เป็นต้น

2. meta tag seo ควรใส่จำนวนคีย์เวิร์ดอย่างเหมาะสม โดยมีข้อควรระวังคือไม่ควรใส่ซ้ำหลายตำแหน่งมากเกินไป เพราะอาจทำให้ขาดความเป็นธรรมชาติและส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีแก่เว็บไซต์ได้

3. วางคีย์เวิร์ดในตำแหน่งที่เหมาะสม หลายคนนิยมใส่คีย์เวิร์ดบริเวณช่วงต้นของคำอธิบาย เนื่องจาก Search Engine จะให้ความสำคัญกับช่วงต้นของคำอธิบายมากกว่าช่วงท้าย ๆ นั่นเอง

4. คำอธิบายมีความยาวเหมาะสม  ควรใช้ความยาวที่จำกัด โดยควรมีความยาวไม่เกิน 150-160 ตัวอักษร

5. ข้อความดึงดูด น่าคลิกเข้าสู่เว็บไซต์          ควรออกแบบคำอธิบายที่น่าสนใจ น่าดึงดูด แต่ถึงอย่างนั้นควรสั้น กระชับและบอกเนื้อหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งคำอธิบายที่น่าสนใจมีส่วนอย่างยิ่งในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้าเว็บไซต์

นอกเหนือจาก อย่าลืมให้ความสำคัญกับการทำ Landing Page  โดย landing page หมายถึง หน้าเว็บไซต์ที่ปรากฏภายหลังที่กลุ่มเป้าหมายได้อ่าน Meta Tag และคลิกผ่าน URL มาเจอ โดย Landing Page เปรียบเสมือนหน้าด่านในการต้อนรับลูกค้า ซึ่งหากออกแบบให้สวยงามน่าสนใจย่อมทำให้กลุ่มเป้าหมายใช้เวลาอยู่ในเว็บไซต์นานยิ่งขึ้น ส่งผลให้การจัดอันดับเว็บไซต์ดีขึ้นตามไปด้วย