เงินฝากปลอดภาษี ดียังไง ต้องฝากเท่าไหร่ ดอกเบี้ยสูงแค่ไหน?

  • จิปาถะ อื่นๆ
  • promotion
  • 1
  • 07 พ.ค. 2563 11:11
  • 118.172.231.***




เงินฝากปลอดภาษี เพียงฝากเงินเท่ากันทุกเดือน เริ่มต้นแค่หลักพันก็ได้แล้ว
ได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย
เป็นทางเลือกของการลงทุน ในช่วงภาวะเศรษฐกิจหดตัวแบบนี้



Highlight ของเงินฝากปลอดภาษี อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า แถมไม่ต้องเสียภาษี

• เงินฝากปลอดภาษี มีความพิเศษเหมือนเป็นตัวช่วยสำหรับการออมเงิน เพียงแค่ฝากเงินเท่ากันทุกเดือน ตามระยะเวลาที่กำหนด ก็ได้รับดอกเบี้ยสูงแล้ว คือแบ่งเงินในแต่ละเดือนมาออมบัญชีนี้นั่นเอง

•นอกจากดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากประจำทั่วไปแล้ว ดอกเบี้ยที่ได้รับยังไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย อีกด้วย ทำให้หลายคนเลือกเปิดบัญชีประเภทนี้สำหรับการออมเงินโดยเฉพาะ

• อัตราดอกเบี้ยภาพรวมของตลาด ตอนนี้เริ่มลดลงเรื่อยๆ จากการปรับลดดอกเบี้ยของ กนง. แต่ก็ยังมีบางธนาคารให้ดอกเบี้ยสูงอยู่ ถือเป็นตัวเลือกให้กับประชาชนและนักลงทุน รีบไปฝากเงินกันดีกว่า!





แบ่งเงินสำหรับใช้ยามฉุกเฉิน ถือเป็นสิ่งจำเป็นในเวลานี้

ในช่วงที่เกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แบบนี้ ทำให้ทุกคนต่างได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้า โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งส่งผลไปถึงสภาพคล่องทางการเงิน บางคนถูกปรับลดเงินเดือน บางคนถูกให้หยุดงานโดยไม่ได้รับเงิน (Leave Without Pay) และถึงแม้บางคนจะยังได้รับเงินเดือนตามปกติ แต่ก็มีความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้นจากเดิม

เราทุกคนจำเป็นต้องวางแผนทางการเงิน เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพิ่มส่วนของเงินออมให้มากขึ้น ทางเลือกที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ยังคงได้รับดอกเบี้ยสูงอยู่ในเวลานี้ ก็คือ "เงินฝากปลอดภาษี" เป็นช่องทางที่ง่ายและสะดวกสำหรับทุกคน สามารถวางแผนการเงินในอนาคตได้ล่วงหน้า ช่วงเวลาแบบนี้การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและปลอดภัย ก็ให้ผลตอบแทนลดลงไปเยอะ งั้นก็แบ่งเงินมาออมกับเงินฝากปลอดภาษี รับรองเลยว่าเริ่ดจริง





"เงินฝากปลอดภาษี" กับ "เงินฝากประจำ" แตกต่างกันยังไง?

เงินฝากปลอดภาษี ถือเป็นบัญชีเงินฝากประจำประเภทหนึ่ง ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาฝากเงินที่ชัดเจนว่า เริ่มต้นและสิ้นสุดเมื่อไหร่ และเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ไม่ได้แปรผันตามอัตราดอกเบี้ยตลาดในช่วงเวลานั้น ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะหดตัวลง ทำให้อัตราดอกเบี้ยของธนาคารต่างๆ ปรับลดลงแค่ไหนก็ตาม จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้นเลยจ้า จัดว่าเป็น promotion ดี ๆ ที่ธนาคารจัดออกมาในช่วงที่ถูกกับสถานการณ์จริง  เพราะจะทำให้เราสามารถคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าได้เลยว่าเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการฝากแล้ว จะได้ดอกเบี้ยเท่าไหร่นั่นเอง โดยปกติแล้วเงินฝากประจำทั่วไป ดอกเบี้ยที่ได้รับ จะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% เสมอ โดยไม่มีขอยกเว้น แต่ก็จะมีเพียงบัญชีเงินฝากปลอดภาษีนี่แหละ ได้รับการยกเว้นหักภาษี ณ ที่จ่าย ทำให้ได้รับดอกเบี้ยแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย






Did You Know?
ความแตกต่างของเงินฝากประจำ VS เงินฝากปลอดภาษี


• เงินฝากประจำทั่วไป : ฝากเงินก้อนเดียวตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น 3 เดือน, 6 เดือน, 24 เดือน โดยจะได้รับดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด หรือจ่ายแบบรายเดือน (แล้วแต่ตกลง) โดยต้องเสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย 15% ไม่มีข้อยกเว้น

• เงินฝากปลอดภาษี : ฝากเงินเท่ากันทุกงวดตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น 24 เดือน ก็ต้องฝากเงินเท่ากันรวม 24 งวด โดยจะได้รับดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนด และไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% (ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด)





เงินฝากปลอดภาษี ไม่ต้องเสียภาษีจริงๆ ใช่มั้ย?

เงินฝากปลอดภาษี จะได้รับการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% จริงๆ จ้า แต่จะจำกัดเอาไว้ 1 คน สามารถเปิดเงินฝากปลอดภาษีได้เพียง 1 บัญชี (รวมทุกธนาคาร) หากเปิดบัญชีเงินฝากปลอดภาษีมากกว่า 1 ธนาคาร ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย เพียงแห่งเดียว ส่วนบัญชีธนาคารอื่นๆ ก็จะเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% ตามปกติ

• จำนวนเงินฝากในบัญชี รวมแล้วต้องไม่เกิน 600,000 บาท ตลอดระยะเวลาฝาก ถ้าระยะเวลา 24 เดือน ฝากได้สูงสุด 25,000 บาท/งวด และระยะเวลา 36 เดือน ฝากได้สูงสุด 16,500 บาท/งวด

• โดย 
โปรโมชั่น นี้สามารถรับสิทธิ์ยกเว้นภาษีได้เพียง 1 บัญชี/คน (รวมทุกธนาคาร) อ้างอิงจากหมายเลขบัตรประชาชน

• โดยปกติแล้วเงินฝากปลอดภาษี แต่ละธนาคารจะกำหนดให้เปิดได้เพียง 1 บัญชี/คน เท่านั้น ลูกค้าคนนึงจะเปิดหลายบัญชี แบบนี้ทำไม่ได้นะจ๊ะ




มาส่องกันหน่อย แต่ละธนาคารให้ดอกเบี้ยเท่าไหร่บ้าง?

ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินของรัฐต่างๆ ได้เริ่มทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปลอดภาษีไปบ้างแล้ว ตามสภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง ทำให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงต้นปี 63 แต่ก็มีบางส่วนที่ยังไม่ได้ปรับดอกเบี้ยลดลง ในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยมีความอ่อนไหว และมีแนวโน้มลดลงอีกสักระยะเลย ถ้าใครอยากฝากเงินบัญชีเงินฝากปลอดภาษี แนะนำว่าให้รีบเปิด โปร นี้กันให้ไวเลยจ้า ดอกเบี้ยลดลงไม่รู้ด้วยน้า





(ข้อมูลอัตราดอกเบี้ย ณ วันที่ 30 เม.ย. 63 ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา)


• สถาบันการเงินพิเศษของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือธนาคารออมสิน ถือว่าปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากปลอดภาษีไปค่อนข้างเยอะ มากกว่าธนาคารอื่นๆ เพราะในช่วงนี้เป็นการปล่อยเงินกู้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ และช่วยเหลือในภาคธุรกิจเป็นหลัก ซึ่งได้รับมาจากนโยบายของภาครัฐเป็นหลัก พูดง่ายๆ ก็คือความต้องการกู้เงินลดลงไปมาก ความต้องการใช้เงินมาปล่อยกู้ ก็ยังไม่มีความจำเป็น

• ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และขนาดกลาง ก็เริ่มได้ทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปลอดภาษี สูงสุด 0.5% ทำให้ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 1.5-2% ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ ของแต่ละธนาคาร

• ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก ถือเป็นกลุ่มที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดในตลาดแล้ว แม้ว่าจะเป็นธนาคารที่มีขนาดไม่ใหญ่ แต่ก็ยังได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากเหมือนกัน ไม่ต้องกังวลใจเลย ถือเป็นโอกาสของใครที่อยากได้ผลตอบแทนสูงๆ ต้องรีบแล้ววว!





ปันโปรคัดให้

3 อันดับของเงินฝากปลอดภาษี ที่น่าสนใจในเวลานี้


อันดับ 3 : ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์




ผลิตภัณฑ์เงินฝากปลอดภาษี จะอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน (ขั้นต่ำ) บวกกับส่วนเพิ่มตามที่กำหนด ถ้าหากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะส่งผลมาถึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปลอดภาษีด้วย ซึ่งมี 
โปร ให้เลือกฝาก 2 แบบ คือ 24 เดือน และ 36 เดือน อยากแนะนำให้เปิดบัญชีเงินฝากปลอดภาษีแบบ 36 เดือนไปเลยจ้า เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า 24 เดือน ถึง 0.50% ต่อปีเลยทีเดียว ยิ่งดอกเบี้ยขาลงแบบนี้เน้นระยะยาวไปเลย

• อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา 24 เดือน = 2.15%

• อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา 36 เดือน = 2.65%







อันดับ 2 : ธนาคารไอซีบีซี (ไทย)




อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันสักเท่าไหร่กับ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) แบงก์สัญชาติจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย สาขาอาจจะไม่ได้เยอะมาก เฉพาะในกรุงเทพฯ มีประมาณ 10 แห่ง แต่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปลอดภาษี ถือว่าให้เยอะเลยทีเดียวล่ะ โดยมี 
โปร ให้เลือกฝาก 2 แบบเหมือนกัน คือ ระยะเวลา 24 เดือนและ 36 เดือน

• อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา 24 เดือน = 2.55%

• อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา 36 เดือน = 2.70%







อันดับ 1 : ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย




ยืนหนึ่งมาก ณ จุดนี้ เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปลอดภาษีสูงสุดในตลาดเลยทีเดียว สาขาก็มีไม่น้อย ตามศูนย์การค้าต่างๆ ก็ยังเปิดให้บริการเหมือนเดิม แต่อาจจะปรับเปลี่ยนเวลาเปิดทำการตามประกาศธนาคาร มี 
โปร ให้เลือกฝากทั้งระยะเวลา 24 เดือน และ 36 เดือน ยิ่งฝากยาวก็ยิ่งได้ดอกเบี้ยเยอะกว่าเดิม ช่วงดอกเบี้ยลดแบบนี้ฝากยาวไปเลย ผลตอบแทนดีงามทีเดียว

• อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา 24 เดือน = 2.60%

• อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา 36 เดือน = 2.85%

หมายเหตุ : อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปลอดภาษี อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา สามารถตรวจสอบได้จากประกาศล่าสุดของธนาคารต่างๆ อีกครั้งก่อนทำรายการ





App Punpro โหลดเลย ทั้งแจ้งโปร มีดิลร้อนลดราคาแรงๆ และบริการรับหิ้วสินค้าให้พร้อม
คลิ๊กเลย!!!
v
v