ใกล้จะถึงวันหยุดยาวทั้งที หลายคนคงวางแผนว่าจะเดินทางไปพักผ่อนเติมพลังกับ

ครอบครัวหรือเพื่อนฝูงสักหน่อย แต่ขึ้นชื่อว่าการเดินทาง ย่อมมีโอกาสที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้ นอกจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุแล้ว ทรัพย์สิน สัมภาระในกระเป๋าก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนเป็นกังวล เพราะถ้าแตกหักหรือสูญหายแล้ว คงทำให้การไปเที่ยวหมดสนุกไปเลย 

    หลายคนทำประกันการเดินทางเตรียมพร้อมไว้เสมอ แต่รู้หรือเปล่าว่าจริงๆ แล้วกรมธรรม์นั้นก็มีแผนเสริม ครอบคลุมเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดกับกระเป๋าเดินทางด้วยนะ มาดูกันดีกว่าว่าทำประกันกระเป๋าเดินทางแล้วดีอย่างไร และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

ทำประกันกระเป๋าเวลาเดินทาง มีข้อดีอย่างไร เคลมอะไรได้บ้าง

    ปกติแล้ว ประกันการเดินทางจะมีแผนเสริมนอกเหนือจากความคุ้มครองหลักที่จะดูแลเราเรื่องค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วย นั่นก็คือ การคุ้มครองทรัพย์สินส่วนตัวนั่นเอง ประกันกระเป๋าเดินทางจะให้ความคุ้มครองเหตุไม่คาดฝันต่างๆ ดังนี้

1. กระเป๋าเดินทางหรือทรัพย์สินส่วนตัวเกิดความเสียหายหรือสูญหายจากการปล้นหรือชิงทรัพย์ 

เหตุไม่คาดคิดอย่างการถูกปล้นหรือชิงทรัพย์เป็นสิ่งที่ทุกคนภาวนาไม่อยากให้เกิด แต่ก็ไม่มีใครคาดการณ์หรือหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน ดังนั้น หากทำประกันกระเป๋าเดินทางไว้ สามารถเรียกร้องค่าสินไหมได้ตามจริง ไม่เกินวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ที่เลือก

2. กระเป๋าเดินทางหรือทรัพย์สินส่วนตัวที่สูญหายหรือเสียหายจากภัยธรรมชาติ

    ธรรมชาติคาดเดาไม่ได้ ดังนั้น การทำประกันไว้จึงเป็นการคุ้มครองความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สินของเรา โดยสามารถเคลมได้ตามจริงไม่เกินวงเงินตามที่ระบุในกรมธรรม์ที่เราเลือกเช่นกัน

3. ถ้าเดินทางโดยเครื่องบินแล้วกระเป๋าเดินทางไม่มาตามเวลา สามารถใช้ประกันกระเป๋าเดินทางเรียกค่าเสียหายจากความล่าช้านี้ได้เหมือนกัน

เคลมกระเป๋าง่ายๆ แค่เตรียมเอกสารให้พร้อม

ในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนไม่ได้มีขั้นตอนยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงแค่เตรียมเอกสารที่จำเป็นให้ครบถ้วน เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ เอกสารที่ต้องใช้ นอกเหนือจากสำเนาบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และแบบฟอร์มของบริษัทที่ทำประกันกระเป๋าเดินทางไว้ คือหลักฐานรับรองว่าเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินนั้นจริง เช่น หากเกิดจากภัยธรรมชาติก็ควรมีจดหมายรับรองจากบริษัทขนส่งหรือโรงแรมที่พัก หรือหากเกิดจากการปล้นชิงทรัพย์ ก็ต้องใช้ใบบันทึกประวันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นที่ระบุทั้งสาเหตุ รายละเอียดและมูลค่าของทรัพย์สิน หรือใช้ใบเสร็จรับเงินจากร้านค้า นอกจากนี้ อย่าลืมเตรียมสำเนาตั๋วเครื่องบินหรือเอกสารการเดินทาง สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของผู้เอาประกัน และเอกสารอื่นๆ ตามที่ทางบริษัทร้องขอ

    หลังจากนั้นจึงส่งเอกสารทั้งหมดให้บริษัทประกันภัย แล้วรอรับเงินค่าสินไหมทดแทนได้เลย

    ความเสียหายต่อทรัพย์สินในระหว่างการเดินทางเป็นสิ่งที่ใครก็ไม่อยากให้เกิด ไม่ว่าจะระหว่างไปเที่ยวหรือทำงานต่างสถานที่ หากเราป้องกันความเสี่ยงนั้นด้วยการซื้อประกันกระเป๋ายามเดินทางเอาไว้ ก็จะยิ่งเพิ่มความอุ่นใจได้แน่นอน