ยุคดิจิทัลเป็นยุคที่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนจากช่องทางออฟไลน์สู่ออนไลน์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับชมภาพยนตร์ การช้อปสินค้า การอ่านหนังสือ การฟังเพลง และการทำการตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะการใช้ Search Ads ซึ่งเป็นการทำโฆษณารูปแบบหนึ่งบน Google ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้ธุรกิจของคุณอย่างมหาศาล หากคุณรู้หลักการทำงานที่ถูกต้อง โดยในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันว่า Search Ads ที่ว่านี้จะช่วยพัฒนาธุรกิจของคุณให้เติบโตขึ้นได้อย่างไร ว่าแล้วก็ตามมาดูพร้อมกันเลย  

Search Ads คืออะไร? 

Search นับว่าเป็นบริการอันดับต้นๆ ที่คนทำธุรกิจส่วนใหญ่นิยมใช้สำหรับการทำโฆษณาบน Google เนื่องจากจำนวนผู้ใช้งาน Google เพื่อค้นหาข้อมูลในประเทศไทยนั้นมีจำนวนสูงถึง 4 ร้อยกว่าล้านคนต่อเดือน นั่นหมายความว่าโอกาสที่เจ้าของธุรกิจจะขายสินค้าหรือบริการผ่านการทำ Google Ads ย่อมมีมากขึ้น โดย Search เป็นรูปแบบของการทำโฆษณาที่ใช้คีย์เวิร์ดเป็นสำคัญ ซึ่งการแสดงผลของ Search Ads นี้ โฆษณาจะขึ้นเป็นลิงก์ที่อยู่บนหน้าแรกของการค้นหาใน Google และหากสังเกตดีๆ จะพบคำว่า ‘Ad’ นำหน้าลิ้งก์ อีกทั้งยังสามารถเลือกใส่ส่วนขยายของโฆษณาเพื่อบอกรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจของคุณได้ ทั้งนี้ ความพิเศษของบริการดังกล่าวจะช่วยทำให้ลิงก์เว็บไซต์ของคุณขึ้นหน้าแรกบน Google ได้ทันที แบบไม่ต้องรอเวลาเหมือนการทำ SEO ซึ่งอันดับของโฆษณาที่ปรากฏบนหน้าแรกนั้นจะขึ้นอยู่กับการประมูลคีย์เวิร์ดที่คุณเลือกใช้ 

หลักการทำงานของ Search Ads 

การโฆษณาบน Google Search นั้นจะต่างกับการทำโฆษณาออนไลน์ทั่วไป โดยแคมเปญโฆษณาที่คุณสร้างขึ้นจะปรากฏขึ้นเมื่อมีการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบน Google ซึ่งการทำ Search นับว่าตอบโจทย์คนทำธุรกิจในยุคดิจิทัลมากๆ เนื่องจากพฤติกรรมการค้นหาข้อมูลของคนส่วนใหญ่จะกดเข้าผลลัพธ์การค้นหาที่ปรากฏในอันดับต้นๆ ของหน้าแรก ซึ่งการทำโฆษณาด้วยวิธีนี้จะช่วยทำให้ข้อมูลของคุณถูกนำขึ้นไปแสดงในอันดับต้นๆ ของหน้าแรก เพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคกดคลิกเข้ามาเยี่ยมชมในเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น และเพิ่มโอกาสการขายให้สูงที่สุดนั่นเอง 

จากข้อมูลทั้งหมดนี้ จึงสรุปได้ว่า Search Ads เป็นบริการที่จะช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ Top บนหน้าแรกของ Google อย่างไรก็ตาม นอกจากการทำโฆษณาบน Search แล้วคุณควรรู้ด้วยว่าคุณจะสามารถวัดคุณภาพของโฆษณาคุณได้อย่างไร เพื่อให้ทราบถึงจุดอ่อน จุดแข็ง และนำมาพัฒนา ปรับเปลี่ยนการทำงานของ Google Ads ให้ดีขึ้น โดยควรศึกษารายละเอียดของ Click, CTR%, Impression, Search Impression Share และ Quality Score ซึ่งจะเป็นตัววัดคุณภาพโฆษณาของคุณว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่