รู้หรือไม่รถของเรา ประกันหมดอายุ เมื่อไหร่      

สำหรับคนที่มีรถยนต์นั้น ภารกิจสำคัญที่ต้องทำประจำปีนอกจากการเช็คว่า ประกันหมดอายุ เมื่อไหร่นั่นก็คือการต่อภาษีรถยนต์และการทำประกันภาคบังคับ ที่เราเรียกกันจนติดปากว่าการต่อ พ.ร.บ.รถ ถือเป็นกฎหมายที่บังคับให้รถยนต์และยานพาหนะทางบกทุกประเภทต้องทำเพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ มิเช่นนั้นจะถือเป็นความผิดหากเรานำรถยนต์ที่ไม่ได้ต่อ พ.ร.บ.ออกมาขับขี่บนท้องถนน

ส่วนการทำประกันภัยรถยนต์ที่เราคุ้นหูกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1 ชั้น 2 หรือชั้น 3 นั้น คือ ประกันภัยภาคสมัครใจ ซึ่งขึ้นอยู่กับเจ้าของรถว่าต้องการทำหรือไม่ แต่ในยุคนี้ผู้คนหันมาให้ความสนใจในการทำประกันรถยนต์กันมากขึ้น เนื่องด้วยปัจจุบันการทำประกันรถยนต์นั้น มีความคุ้มครองหลายแบบหลายประเภทที่เราสามารถเลือกให้เข้ากับการใช้งานของเรา การเข้าถึงข้อมูลการประกันภัยที่มีมากในทางอินเทอร์เน็ตก็สะดวกรวดเร็ว เราสามารถซื้อประกันรถยนต์ได้ง่ายแม้แต่ทางออนไลน์ เพียงแค่เลือกเงื่อนไขความคุ้มครองที่สามารถยืดหยุ่นได้ แถมยังมีบริการผ่อนชำระได้อีก ผู้คนส่วนมากจึงเห็นความคุ้มค่าที่จะจ่ายเงินเพื่อแลกมากับความคุ้มครองนั้น

แต่เมื่อเราทำประกันแล้ว จะมีสักกี่คนที่เปิดเล่มกรมธรรม์อ่านอย่างถี่ถ้วน บางคำศัพท์ บางเงื่อนไขสำหรับบางคนที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องการประกันภัยก็อาจจะอ่านแล้วไม่เข้าใจ หรือไม่มีเวลาจะมานั่งอ่าน เมื่อทำประกันและจ่ายเงินเรียบร้อยก็คือเสร็จขั้นตอน แล้วก็นำกรมธรรม์ที่ได้มาเก็บเอาไว้

ถึงแม้จะอ่านแล้วไม่เข้าใจในทุกสาระสำคัญก็ไม่เป็นไรนัก เพราะถึงอย่างไรความคุ้มครองก็ยังคงอยู่กับเรา แต่เงื่อนไขที่ระบุอยู่ในกรมธรรม์ที่สำคัญที่เราไม่ควรลืมก็คือระยะเวลาในการคุ้มครอง มันคงจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่หากเราขับรถไปประสบอุบัติเหตุโดยที่ ประกันหมดอายุ  เพราะหลายคนอาจจะสงสัยว่าหาก ประกันหมดอายุ เคลมได้ไหม

มีกรณีตัวอย่างของการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วไม่สามารถเคลมประกันได้เนื่องจากอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเวลา 16.30 น. ของวันที่ประกันระบุว่าเป็นวันสุดท้ายของการคุ้มครอง อ่านถึงตรงนี้บางคนอาจจะสงสัยว่าเพราะเหตุใด ในเมื่อเราประสบเหตุในวันที่ประกันระบุไว้แต่เราไม่สามารถเคลมประกันได้ ทั้งนี้เนื่องมาจากเงื่อนไขของประกันภัยรถยนต์จะคุ้มครองถึงแค่เวลา 16.30 น.ของวันสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่คนใช้รถจำนวนมากก็ไม่ทราบเช่นกัน ซึ่งถ้าหากเราขับขี่รถไปเกิดเหตุหลังเวลาดังกล่าว ประกันที่เรามีก็ไม่สามารถช่วยคุ้มครองทรัพย์สินของเราได้เลย

ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำเมื่อเราซื้อประกันรถยนต์ คือศึกษาเงื่อนไขในกรมธรรม์ให้เข้าใจ และที่สำคัญอย่าลืมต่อประกันก่อนหมดอายุด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน เมื่อมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับรถของเราเอง ก็ยังอุ่นใจได้ว่ามีประกันภัยคุ้มครองอยู่