ประกันรถ เป็นหนึ่งในการป้องกันความเสี่ยงในการใช้รถใช้ถนนนะครับ เนื่องมาจากว่าอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นมาได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ต้องอยู่บนท้องถนนนะครับ ดังนั้นจึงเกิดการทำประกันรถยนต์ขึ้นมา โดยแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ประกันภาคบังคับที่บังคับให้รถทุกคันต้องทำ เรียกว่า พรบ. รถยนต์ รถคันไหนที่ พรบ. ขาด หรือหมดอายุ ถือว่ามีความผิดทางกฎหมายนะครับ ส่วนประกันรถอีกแบบหนึ่ง เป็นประกันแบบสมัครใจ ที่ทำโดยบริษัทเอกชน ผู้ใช้รถจะต่อประกันรถหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าทำไว้เพิ่มเติม รถก็จะมีประกันที่เพิ่มขึ้นมา มีการชดเชยค่าเสียหายในส่วนต่างๆ ตามที่ได้ตกลงกันไว้ในกรมธรรม์นั่นเอง ซึ่งโดยปกติแล้วประกันรถยนต์แบบนี้จะมีให้เลือกหลายระดับความต้องการ ตั้งแต่ประกันชั้น 1 ชั้น 2 หรือชั้น 3 โดยเราก็จะต้องเลือกว่าจะทำประกันรถยนต์ที่ไหนดี บริษัทใด หรือพิจารณาจากการเคลม ว่าประกันชั้น 1 เคลมอะไรได้บ้าง เพื่อให้ตรงกับการใช้งานของเรานะครับ แต่ถ้าเราใช้รถกันไปสักพักนะครับ ในวันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า รถแต่ละช่วงอายุ เหมาะกับประกันรถยนต์แบบไหน มาดูกันเลย

ประกันชั้น 1 รับรถอายุถึง 15 ปี โดยปกติแล้วประกันชั้น 1 จะรับเฉพาะรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี ซึ่งส่วนใหญ่ที่ต่ออายุประกันได้ถึง 15 ปี จะเป็นการต่ออายุต่อเนื่องกับบริษัทประกันเดิม โดยมีเงื่อนไขในการพิจารณาในเรื่องของประวัติผู้เอาประกัน หากประวัติดี ไม่ค่อยมีการเคลม ทางบริษัทอาจรับพิจารณาในการต่อประกันชั้น 1 นอกจากนี้ตัวรถต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีความเสียหายเกินกว่า 4 บาดแผล ทำแล้วคุ้มครองทั้งรถคุณ และรถคู่กรณี ซึ่งถึงแม้ราคาค่าเบี้ยจะสูงกว่าประกันชั้นอื่น แต่ความคุ้มครอง คุ้มค่ากับค่าเบี้ยที่เสียไปแน่นอน ประกันชั้น 1 นี้ ถือว่าเป็นประกันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ประกันชั้น 2+ 3+ รับรถอายุถึง 25 ปี นับเป็นประกันที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ประกันชั้น 1 เพราะให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกัน เพียงแต่หากเกิดเหตุต้องเป็นรถชนรถเท่านั้นถึงจะได้รับความคุ้มครอง ส่วนเรื่องของสภาพรถไม่มีส่วนในการพิจารณา จะเป็นรถเก่า หรือรถใหม่ก็สามารถทำได้ แต่ต้องไม่เกิน 25 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่มีความชำนาญในการขับขี่ และคนที่ต้องการความคุ้มครองครบ แต่จ่ายเบี้ยน้อย เพื่อความประหยัด

ประกันชั้น 3 รับรถได้ไม่จำกัดอายุ คุ้มครองเฉพาะฝั่งคู่กรณีเท่านั้น เนื่องจากประกันชั้น 3 มีราคาถูกมากกว่าประกันชั้นอื่น ความคุ้มครองที่ได้จึงค่อนข้างจำกัด แต่อย่างน้อยก็ยังสบายใจได้ หากเกิดเหตุขึ้นก็ยังมีประกันช่วยจ่ายค่าเสียหายให้กับคู่กรณี

          การทำประกันรถยนต์ เป็นเรื่องที่ช่วยในการสร้างความมั่นใจในการขับขี่ เพราะไมแน่ว่า การใช้รถใช้ถนนของเรานั้น จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นหรือไม่ เราขับดี แต่ก็อาจจะมีคนอื่นมาชนก็เป็นได้ รวมถึงในช่วงเวลานั้น เกิดเราเป็นช่วงที่กำลังฝืดเคืองเรื่องเงินทอง แต่รถเจ้ากรรมดันมีอุบัติเหตุ เราก็ยังมีตัวช่วยในการแบ่งเบาภาระได้เป็นอย่างดีนะครับ