การใช้รถใช้ถนนในปัจจุบันนี้นั้นนะครับ มีเส้นทางให้เราสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ อย่างมากมาย เพื่อความรวดเร็ว ความสะดวกในด้านต่างๆ มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางในเมืองหลวงย่อมมีทางด่วนพิเศษรูปแบบต่างๆ เพื่อช่วยร่นระยะเวลาเดินทางให้น้อยลงในสภาพที่รถติดนะครับ แต่ยิ่งเรามีเส้นทางเดินรถมากเท่าใด ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุก็ยิ่งจะมีมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนทางด่วนที่รถแต่ละคันค่อนข้างจะใช้ความเร็วสูงในการขับขี่นะครับ ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำอย่างไรนั้น เรามาดูกันเลย

          สิ่งแรกที่ควรทำเลยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเกิดบนทางด่วนหรือเส้นทางปกติทั่วไปก็คือ ต้องตั้งสติเอาไว้ให้ดีครับ แล้วพยายามประคองรถเข้าไหล่ทางให้ไวที่สุดและเปิดไฟฉุกเฉินเอาไว้ เพื่อให้ผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนได้รู้ว่ารถยนต์ของคุณนั้นเกิดอุบัติเหตุหรือเสียเกิดขึ้น เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและผู้อื่นครับ หลังจากที่คุณนำรถเข้าไหล่ทางหรือที่ปลอดภัย ก็ควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินต่างๆ หรือไม่ ก็สามารถใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินที่ กทพ. ได้ติดตั้งไว้บนทางพิเศษทุก ๆ 500 – 1,000 เมตร ซึ่งเบอร์ฉุกเฉินมีดังนี้

• 191 แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 191 นั้นเป็นเบอร์โทรสารพัดประโยชน์ สามารถใช้แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเกิดเหตุที่ไหนก็ตามคุณสามารถโทรแจ้งได้ที่เบอร์นี้ได้ แล้วเจ้าหน้าที่จะทำการประสานงานแจ้งต่อไปยังหน่วยงานที่เหมาะสม และอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุให้ต่อไป
• 1669 เจ็บป่วยฉุกเฉิน  ถ้าหากเกิดเหตุไม่สบายหรือเกิดอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บก็สามารถโทรแจ้งได้เลยทันทีครับ จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และส่งเรื่องไปรับตัวผู้บาดเจ็บเพื่อนำส่งโรงพยาบาลต่อไป
• 1543 สายตรงทางด่วน  ไม่ว่าจะรถชนกันหรือรถเสียบนทางด่วน ก็ควรที่จะแจ้งไปยังสายตรงทางด่วนเลย เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเขตทางด่วนก็ไปยังที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอประสานงานจากตำรวจหลายต่อหลายทอดนะครับ

นอกจากนี้เมื่อแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายต่อเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมโทรแจ้งกับบริษัทประกันรถยนต์ของเราด้วยนะครับ เล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้กับบริษัทประกันภัยให้ครบถ้วนและทำตามคำแนะนำต่าง ๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่แนะนำครับ และที่สำคัญอย่าลืมถ่ายรูปที่เกิดเหตุไว้ด้วย เพื่อเป็นหลักฐานหากมีปัญหาตามมาทีหลังด้วยนะครับ

อุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาแล้ว แต่เรายังมีประกันภัยไว้คอยให้อุ่นใจ ก็ถือว่ายังเป็นเรื่องที่ดีในการช่วยเยียวยาส่วนต่างๆ นะครับ เพราะประกันภัยรถยนต์ไม่ว่าจะประกันชั้น 1 ประกันรถยนต์2 หรือประกันชั้น 3 ความคุ้มครองที่นอกเหนือจาก พรบ รถยนต์ ล้วนเป็นสิ่งที่มีความคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง ช่วยให้เราอุ่นใจได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่เมื่อมีความอุ่นใจจากการทำประกันแล้วนะครับ เราก็จะต้องไม่ประมาท รวมถึงจะต้องมีสติในการใช้รถใช้ถนน และขับขี่รถด้วย เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ นั่นเองนะครับ