ประกันภัยรถยนต์ เป็นหนึ่งในบริการของบริษัทประกัน ที่จะช่วยในการดูแลความเสี่ยงของผู้เอาประกัน โดยผู้เอาประกันนั้นจะจ่ายไปในรูปแบบของเบี้ยประกัน แล้วเมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น ก็จะได้รับความคุ้มครอง การชดเชยค่าเสียหายในส่วนต่างๆ ที่ได้ตกลงกันไว้ในกรมธรรม์ของประกันรถยนต์นั่นเอง ซึ่งรูปแบบของการทำประกันรถยนต์นั้น โดยปกติ รถยนต์ทุกคันจะต้องทำประกันอยู่แล้วที่เป็นประกันภาคบังคับที่เราเรียกว่า พรบ รถยนต์นะครับ ไม่ว่าจะรถป้ายทะเบียนปกติ หรือป้ายเลขทะเบียนรถมงคลต่างๆ ก็ล้วนจะต้องทำประกันภาคบังคับทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ก็จะมีบริการประกันนอกเหนือ ที่เราสามารถทำได้เพิ่มเติม ก็คือประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2 ชั้น 3 ที่เราสามารถเลือกทำได้ตามความสมัครใจ เพื่อที่จะให้ได้รับความคุ้มครองเพิ่มเติมจากที่ขั้นต่ำของ พรบ ต้องการนั่นเองนะครับ เพราะโดยปกติแล้ว ถ้าเราทำประกันกับบริษัทเอกชน เราก็จะได้รับความคุ้มครองทั้งตัวเราเองและคู่กรณีของเราที่เกิดอุบัติเหตุด้วยนะครับ

          การเลือกทำประกันรถยนต์ เนื่องจากในปัจจุบันมีบริษัทที่เป็นโบรกเกอร์ประกันภัยจำนวนมากให้เราได้เลือกใช้บริการกันนะครับ แถมยังมีระดับของประกันที่ให้เลือกหลากหลายอีกไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือประกันรถยนต์ชั้นอื่นๆ แล้วเราจะเลือกประกันรถยนต์แบบไหนให้เหมาะกับตัวเราและมีความคุ้มค่ามากที่สุด วันนี้เรามาดูกันเลยครับ

          ปรับแต่งกรมธรรม์ให้เหมาะสมกับเรา เนื่องจากมีหลายบริษัทนะครับที่ให้เราได้สามารถปรับเปลี่ยนเงื่อนไขของกรมธรรม์ได้ เพื่อให้สามารถช่วยลดค่าเบี้ยประกันไม่ให้สูงเกินไป หรือไม่ให้เกิดความลำบากในการจ่ายเบี้ยประกันแต่ละปี โดยอาจจะสามารถเลือกอู่ การประกันตัว การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น

          การเลือกระบุผู้ขับขี่ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการให้เกิดความคุ้มค่าในการทำประกันได้เป็นอย่างดีนะครับ เนื่องมาจากว่าถ้าใครใช้รถคันเดียว ใช้คนเดียวโดยที่เราเป็นคนขับประจำอยู่แล้ว เราก็สามารถเลือกใช้ประกันที่ระบุตัวผู้ขับขี่ไปเลย เพราะจะทำให้ต้องจ่ายเบี้ยประกันที่ถูกกว่าการคุ้มครองคามเสียหายที่ไม่ได้ระบุตัวผู้ขับขี่นะครับ

          รถเก่ากว่า เลือกความคุ้มครองที่ต่ำกว่า ช่วยประหยัดได้เยอะ เพราะเป็นธรรมดาที่การทำประกันชั้น 1 นั้นอาจจะมีราคาแพง ด้วยเบี้ยประกันที่สูง แต่ถ้าเกิดเราใช้รถเก่าที่ไม่ได้เป็นรถป้ายแดง เป็นรถใหม่ก็อาจจะเลือกใช้ประกันรถยนต์ประเภท 2+ หรือ 3+ ก็ถือว่าเพียงพอนะครับ เพื่อให้ต้องจ่ายเบี้ยประกันที่ถูกลงนั่นเอง

          ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การโทรผาผู้เชี่ยวชาญ หรือคอลเซนเตอร์ เพื่อหาวิธีการประหยัดเบี้ยประกัน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการปรึกษาเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้งานมากที่สุด โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ในส่วนต่างๆ ได้เป็นอย่างดีนั่นเองนะครับ

          การเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ ถ้าหากจะเลือกให้คุ้มค่าต้องใช้การพิจารณา และเลือกอย่างเหมาะสมในระดับที่ตรงกับความต้องการของเรานะครับ ไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยเกินไป เพียงเท่านี้เราก็จะได้ประกันรถยนต์ในระดับราคาที่ไม่น่ากลัว แถมยังสามารถคุ้มครองได้เต็มที่อีกด้วย