งานรวมใจไบค์เกอร์ สายโลหิตสู่กาชาดไทย เพื่อ แผ่นดินของพ่อและพี่น้องผองไทย 22-23 พค. 2553 11:00 น. – 18:00 น. ณ กาชาดไทย เซ็นทรัลบางนา ถนน บางนา-ตราด ความเป็นมา เนื่องจากวิกฤต การเมือง ลุกลามสู่ความไม่สงบในบ้านเมือง นำมาซึ่งความ แตกแยกของชนในชาติ หดหู่ สิ้น หวังและเสียเลือดเนื้อของพี่น้องชาวไทยด้วยกันเอง ความ ร้าวรานพระทัยของพ่อ ในหลวงของเราพี่น้องคนไทย ทั้ง ที่พระองค์ทรงมีพระชนม์พรรษาสูงและทรงงานหนักมาตลอด ควรจะ ทำให้กำลังพระทัย เนื่องในปีแห่งครอบครัว ปี แห่งความรัก ความสามัคคี ปีเฉลิมฉลอง 60 ปีราชาภิเษก และราชาภิเษกสมรส เราจึงควรช่วยกันเยียวยาพี่น้องผอง ไทยคืนสู่รากแก้วของวัฒนธรรมไทยอันดีงาม เช่น ความมีน้ำใจ เอื้ออาทร ประนีประนอม ปรองดอง ร่วมรู้รักสามัคคี ฯลฯ เหนือทุก ศรีษะเทิดไว้ซึ่งความจงรักภักดีถวายแด่ องค์ราชันย์ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ประเทศไทย แผ่นดินของพ่อและพี่น้องผองไทยจะต้องดูแลกันเอง โดยคนไทย ไม่ต้องขอร้องให้ต่างชาติเข้ามาดูแล พร้อมต้อนรับมิตรประเทศด้วยไมตรีจิต เมื่อมาเยือนท่องเที่ยว ลงทุน แต่ต้องจัดการบริหารราชการแผ่นดิน เป็น ระบอบประชาธิปไตย โดยคนไทย เพื่อคนไทย โดยไม่มีการแบ่งแยกดินแดนราชอาณาจักรใหม่ อยู่ภาย ใต้ราชอาณาจักร ในพระบรมโพธิสมภารของ อภิราชันย์ มหาราชแห่งราชวงศ์จักรี แนวคิด และการดำเนินการ โดย ที่ไบค์เกอร์เราเป็นแก่นหนึ่งของสังคม เป็นรากหนึ่งของภาค ประชาชน คนอิสระ ที่มีความรักหวงแหนแผ่นดินของพ่อและพี่น้องผองไทย สำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่เปรียบมิได้ โดยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ในสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อออกมาแสดง พลังเป็นน้ำเชื่อมประสานสายใยรัก ความ ห่วงใย ความผูกพันธ์ในสังคมไทย ในภาวะที่ทางสภากาชาดไทย กำลังขาดแคลนเลือดจากยอดบริจาคในแต่ละวันที่ลดลงมาก เลือดในสต็อกก็เหลือน้อย แต่ความต้องการมากจากยอดผู้ประสบ ภัยบาดเจ็บล้มเสียชีวิต ไม่ว่าจะฝ่ายไหนที่รอการรักษา พี่ น้องเพื่อนพ้องไบค์เกอร์ จึงขอเป็นตัวแทนคนไทยส่วนหนึ่งเชิญชวนภาคประชาชนออกมา มาร่วมแสดงความจงรักภักดี ร่วมแสดงพลังรู้รักสามัคคี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวงของไทย โดยจะขอรณรงค์ไบค์เกอร์ทัวประเทศ ร่วมบริจาคโลหิตให้สภากาชาด เพื่อช่วยผู้ประสบ ภัยในชื่อกิจกรรมงานรวมใจไบค์เกอร์สายโลหิตสู่กาชาดไทย เพื่อแผ่นดินของพ่อและพี่น้องผองไทย โดยพร้อมเพรียงกัน ระหว่างวันที่22-23 พค. 2553 กำหนดการ วันที่ 22 พค. 2553เวลา 11: 00 น. - 18:00 น. ไบค์ เกอร์ทั่วประเทศ ร่วมแสดงพลังทยอย เดิน ทางมาบริจาคโลหิตที่หน่วยกาชาดแต่ละจังหวัด วันที่ 23พค. 2553 ไบค์ เกอร์ทั่วประเทศ ร่วมแสดงพลังทยอยเดินทางมาบริจาคโลหิตที่ หน่วยกาชาดแต่ละจังหวัด หรือที่หน่วยกาชาดใกล้บ้านท่าน สถานที่ วัน ที่ 22 พค. 2553 ในกรุงเทพฯและปริมณฑลพบ กันที่กาชาดไทยเซ็นทรัลบางนา จะมีทางชลบุรี และสมุทรปราการมาสมทบด้วย ความในใจเสริมของบก.เอ๋ วีคลาส ข้อเขียนและประกาศกิจกรรมฉบับนี้เกิดจากการ หารือนำเสนอแนวคิดร่วมกันระหว่างผมบก. เอ๋วีคลาส กับพี่มินบูรพา พี่อาทิตย์ จิตต์รำพึง พี่อิ๊ดไวด์อีเกิ้ล พี่บิลลี่ แอร์ฟอร์ด น้องบาสวีคลาส พี่ผู้พันเอกและ เพื่อนรวี คันทรีไบค์ และอีกหลายท่านรวมทั้งท่านผู้ใหญ่ที่ ไม่อาจเอ่ยนามได้โดยความเคารพ นำมาซึ่งการ กำหนดนโยบาย วางแผนเชิง ปฎิบัติการ ประสานการดำเนินงานกับ ทุกภาคส่วนอย่างเป็นรูปธรรม หาก ผิดพลาดประการใด โดยบางถ้อยคำเป็นความเห็นส่วนตัว แต่ คิดว่าประเมินจากสถานการณ์จริงที่สุด ผมบก.เอ๋ วีคลาส หรือปริญญา หงษ์หยกผู้เขียน ขอรับผิดชอบไว้และขออภัย มันออกมาจากเจตนาดีและจุดยืนอันบริสุทธิ์ อย่างแท้จริง เราต้องช่วยกัน เป็นน้ำเชื่อมประสาน ช่วยกันเยียวยาประเทศของเรา เริ่มจากกลุ่มเล็กๆไบค์เกอร์ของเราก่อน กิจกรรมนี้เป็นของพวกเราทุกคน มิใช่ของคนใดคนหนึ่ง เวป ไซด์ใดเวปไซด์หนึ่ง ชมรมหรือสมาคมใด สมาคมหนึ่ง แต่เป็นพวกเราคนไทย ในพระบรมโพธิสมภารทุกคนครับ ช่วยกันเชิญชวนนะครับ พี่น้องผองเพื่อนไบค์เกอร์ ชาวคาวบอยอินเดียน คนรักรถคลาสสิค ประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมทำดีเพื่อพ่อ บริจาค โลหิตที่สภากาชาดไทยใกล้บ้านคุณ ในแต่ละจังหวัด สาย โลหิตนี้เพื่อแผ่นดินของพ่อและพี่น้องไทย หมายเหตุ • ยืม สำนวนบ้านของพ่อ ของพี่อ๊อฟพงษ์พัฒน์มาใช้หน่อย ประทับใจและปรบมือให้พี่อ๊อฟด้วยคน พี่เค้าก็เป็นไบค์เกอร์คนหนึ่ง เป็น แฟมิลีแมน เคยได้พบพี่เค้าทั้งครอบครัว ทานข้าวด้วยกันเมื่อวันเปิดเดอะยิมของพี่จงหาดใหญ่หลายปีแล้ว ยังระลึกถึงครับ • พี่ทางเชียงใหม่หารือกับพี่โต้ง พี่บ็อบบี้ได้ พี่ทางพิษณุโลกหารือพี่โต้งพิษณุโลก พี่ ทางโคราชหารือกับพี่หมู พี่เหล่า นี้ประสานกับผู้ใหญ่ละทางกาชาดจังหวัดแล้วเรื่องงานวันที่ 22 พค.2553 • พี่ จูมินจะนำทีมทางฝั่งตะวันออกขึ้นมาที่กาชาดไทยเซ็นทรัล วันที่ 22 พค.2553 ผมแจ้งทางทางผู้ประสานงานกาชาดไทยว่าเราจะได้เลือดบริจาคจากพี่น้องไบค์ เกอร์และภาคประชาชนเกินร้อยคนในวันนั้น เพราะตอนนี้ ขาดแคลนเลือดจริงๆ ขอคนที่สภาพพร้อมจริงๆ ตามสมัครใจนะครับ ใครไม่สามารถบริจาคก็มาเป็นกำลังใจและช่วยประชาสัมพันธ์ได้นะครับ • พี่ๆเพื่อนๆสามารถปริ้นนี้เอกสารติดตัว ไปเป็นหลักฐานได้ เพื่อ ชี้แจงกรณีระหว่างเดินทางมาบริจาคถ้ามีการตรวจ แต่ได้ประสาน ทางหน่วยงานบ้านเมืองไว้ น่าจะสะดวกปลอดภัยทุกอย่าง ถ้าพี่คนไหนมีเข็มอมรมอาสาสมัครทางหลวงมาช่วยขับนำเพื่อนๆด้วยจะดีมาก • ขอสต๊าฟท์อาสาในกรุงเทพฯ มาก่อนเวลา ประสานกับทีมกาชาดช่วยดูแลเพื่อนๆแจ้งชื่อเบอร์โทรที่พี่บิลลี่ แอร์ฟอร์ด ผู้ดูแลwww.vclassspecial.com โทร. 081-4571737และพี่ ผู้พันเอกwww.countrybikethailand.com โทร. 080-7787090 • รายละเอียดเพิ่มเติมในระยะเวลา ก่อนงาน บก.เอ๋ วีคลาสจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ฝากช่วยประชาสัมพันธ์ต่อๆกันนะครับ ขอ ขอบพระคุณในน้ำใจไมตรีของทุกคน ทุกฝ่าย ทุกชมรม ทุกเวปไซด์ ล่วงหน้าครับ ข้อ ควรรู้ ก่อนจะบริจาคโลหิต 1. อายุ ระหว่าง 17-60 ปี และสุขภาพสมบูรณ์ ( ไม่ใช่ แค่ปกติหรือแข็งแรง ) ถ้าอายุน้อยเกินไป จะมีภาวะทางความคิดและร่างกายไม่เหมาะสม กฎหมายไม่อนุญาต ต้องมีผู้ปกครองรับทราบ และยินยอม ถ้าอายุมากเกินไป ก็จะมีปัจจัยสุขภาพเสี่ยงเกินไป เป็นอันตรายต่อผู้บริจาคเอง 2. นอนหลับไม่น้อยกว่า 6 นิสัยแย่โมง การนอนหลับ ไม่ควรนอนผิดเวลาจากปกติ ผู้ที่ทำงานเป็นกะ ไม่ควรบริจาค ถ้านอนไม่พอ ถึงบริจาคไปแล้ว ก็เอาไปใช้ไม่ได้ เพราะเลือดจะลอย 3. กินอาหารประจำมื้อเรียบร้อยแล้ว ( หรืออย่างน้อย - ก่อนบริจาค 4 ชม. ) ก่อนบริจาค ควรกินอาหารมาให้เรียบร้อย แต่ไม่ควรเน้นอาหารที่มีไขมันมาก หรือ งดอาหารมันๆ ก่อนบริจาค 1 วันก็จะดี 4. ท้องเสีย ท้องร่วง ภายใน 7 วัน เป็นผลเสียทั้งต่อผู้บริจาค และ ผู้รับบริจาคอาจติดเชื้อ ( ถ้ามี ) ได้ 5. น้ำหนักลด ในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยไม่ทราบสาเหตุ หากเกิดขึ้น มักมีสาเหตุจากโรคภายใน เช่น เบาหวาน ไทรอยด์เป็นพิษ หรือแม้แต่... AIDS หรือ HIV ถ้ากินยาลดน้ำหนัก ก็ไม่ควรบริจาคเช่นกัน แต่ถ้าน้ำหนักลดอย่างสมเหตุสมผล จากการออกกำลังกาย หรือ ควบคุมอาหาร ( โดยไม่ใช้ยา ) สามารถบริจาคได้ 6. กินยาแอสไพริน ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาแก้ปวดข้อ อาจมีผลทำให้ยาไปยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดโลหิต ทำให้โลหิตแข็งตัวช้าลง ไหลแล้วหยุดยาก 7. กินยาแก้อักเสบใน 7 วัน หรือยาอื่นๆ โปรดปรึกษาเจ้าหน้าที่ หากกินแก้อักเสบอยู่อาจหมายถึง ผู้บริจาคได้รับการติดเชื้อ ซึ่งอาจแพร่เชื้อเข้ากระแสโลหิตของผู้รับบริจาคได้ นอกจากนี้ ผู้รับบริจาค อาจแพ้ยา ที่ผู้บริจาคกินก่อนมาบริจาคได้ 8. เป็นโรคหอบหืด ลมชัก โรคผิวหนังเรื้อรัง ไอเรื้อรัง วัณโรค หรือโรคภูมิแพ้อื่นๆ การเป็นโรคดังกล่าว แล้วมาบริจาค อาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้อาการดังกล่าวกำเริบได้ 9. เคยเป็น หรือมีคนในครอบครัวเป็นโรคตับอักเสบ ผู้ที่เคยเป็น แล้วไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นชนิดใด หรือ ไม่สามารถบอกได้ว่า หายขาด หรือไม่มีเชื้อแล้ว ไม่ควรบริจาคจนกว่าจะได้รับการยืนยันจากแพทย์ ว่าปลอดภัยจากเชื้อตับอักเสบ ผู้ที่สัมผัส ใกล้ชิดผู้ป่วย ก็อาจได้รับเชื้อแล้วเช่นกัน 10. เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจ ไต ไทรอยด์ มะเร็ง โลหิตออกง่ายหยุดยาก หรืออื่นๆ เพื่อความปลอดภัย หากมีความจำเป็นต้องบริจาค ให้อยู่ในความดูแล และวินิจฉัยจากแพทย์อย่างใกล้ชิด 11. ทำฟัน ภายใน 3 วันก่อนจะบริจาค เหงือกอาจจะอักเสบ และ หากมีแผลในช่องปาก อาจเป็นทางนำเชื้อโรคสู่กระแสโลหิตได้ 12. ท่าน หรือ คู่ของท่าน มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศกับผู้อื่น โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง แสดงอาการให้เห็น แต่บางอย่าง แม้ติดเชื้อแล้ว ก็ตรวจไม่พบในระยะฟักตัว ทั้งๆที่ผู้บริจาคอาจมีเชื้ออยู่แล้ว ดังนั้น...หากไม่แน่ใจใน 6 เดือน ควรไปตรวจที่คลีนิกนิรนามหรือที่โรงพยาบาลก่อนบริจาค 13. ได้รับการผ่าตัดใหญ่ ในระยะ 6 เดือน หรือผ่าตัดเล็ก ใน 1 เดือน การผ่าตัดอาจเสียโลหิตไปส่วนหนึ่ง แผลผ่าตัด ต้องใช้เวลาและสารอาหารในการซ่อมแซม จึงควรงดเว้นในการบริจาคไปก่อน 14. เจาะหู สัก ลบรอยสัก ฝังเข็ม ในระยะ 6 เดือน เข็มเจาะ และรูแผลที่ผิวหนัง มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อโรคติดเชื้อที่มีการส่งต่อทางกระแสโลหิตและน้ำเหลือง และสามารถส่งต่อไปยังผู้รับบริจาคได้อีกด้วย เช่นไวรัส ตับอักเสบ บี , ซี และ AIDS หรือ HIV 15. เคยมีประวัติติดยาเสพติด หรือพ้นโทษในระยะ 3 ปี ผู้ที่เคยมีประวัติติดยาเสพติด หรือเพิ่งพ้นโทษ จะมีโอกาสเสี่ยงสูงต่อโรคที่มีการส่งต่อทางโลหิตและน้ำเหลือง แม้จะไม่มีการใช้เข็มร่วมกัน หรือแม้เสพย์ทางการกิน หรือสูดดม อาจทำให้มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศภายหลังใช้ยาได้ 16. เคยเจ็บป่วยต้องรับโลหิตผู้อื่นในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา เมื่อเคยป่วยและได้รับโลหิตจากผู้อื่น จะมีการสร้างภูมิต้านทานต่อระบบหมู่โลหิตได้ ถึงแม้จะมีการตรวจเพื่อหาหมู่โลหิตหลักที่เข้ากันได้ แต่หมู่ย่อยไม่สามารถหาได้ตรงกันทั้งหมด และยังคงเป็นปัญหากับผู้ป่วยอีกด้วย 17. ฉีดวัคซีนในระยะ 14 วัน หรือ ฉีดเซรุ่มในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา เช่นวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ และ เซรุ่มป้องกันพิษสุนัขบ้า เป็นต้น 18. เข้าไปในพื้นที่ ที่มีเชื้อมาเลเรียชุกชม ในระยะ 1 ปี หรือเคยป่วยเป็นมาเลเรีย ถ้าเคยป่วยแล้วไม่ได้รับการรักษาให้หายขาด เชื้อสามารถแอบแฝงอยู่ในร่างกายได้โดยไม่แสดงอาการ ดั งนั้น ผู้ที่จะบริจาคได้ต้องไม่มีอาการซ้ำ เป็นเวลา 3 ปี 19. อยู่ในระหว่างมีรอบเดือน ไม่ควรให้ร่างกายมีการเสียโลหิตซ้ำซ้อนในคราวเดียวกันโดยไม่จำเป็น ควรรอให้หมดรอบเดือนเสียก่อน 20. คลอดบุตร หรือ แท้งบุตร ภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา การคลอด หรือ การแท้งบุตร จะมีการเสียโลหิตเป็นจำนวนมาก ร่างกายของผู้บริจาค ต้องใช้เวลาในการปรับตัวเพื่อให้มีการสร้างโลหิตที่มีคุณภาพขึ้นมาใหม่ 21. งดบุหรี่ หรือสิ่งมึนเมาใดๆ ก่อนบริจาคโลหิต ถ้าเป็นบุหรี่ ก็ 1 วัน หรืออย่างน้อย 6 ชม. เพื่อให้ปอดได้ฟอกเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพหน่อย การปฏิบัติตัวภายหลังการบริจาค 1. นอนพักสักครู่หลังการบริจาคเลือด ห้ามลุกขึ้นจากเตียงทันที เพราะอาจเวียนศีรษะเป็นลมได้ 2. ควรรับประทานขนมหวานและนํ้าหวานท่จี ดั เตรยีมไว้ให  3. เปลี่ยนสำลปี ิดแผลด้วยปลาสเตอร์ปิดแผล ซึ่งควรดงึออกทิ้งในตอนเยน็ ของวนั น้นั 4. หากมีอาการผิดปกติ ทั้งกอ่ น ขณะหรือหลังการบรจิ าคเลือด เช่น หน้ามดื เวียนศรี ษะ ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบทันที